บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) คาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 64 แตะระดับ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนทำได้ระดับ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังมีแผนจะเข้าซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 2/61 จะมีความชัดเจน 1 ดีล ผนวกกับโครงการลงทุนเดิมเริ่มดำเนินการผลิต ขณะที่ตั้งงบลงทุนปี 61-62 ที่ระดับ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่นับรวมดีลการซื้อกิจการ
ส่วนในปีนี้คาดว่า EBITDA จะเติบโต 25% หลังตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตอีก 16-17% จากระดับ 9.1 ล้านตันในปีก่อน และคาดส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์ PET ปีนี้จะแตะ 234 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากระดับ 217 เหรียญสหรัฐ/ตันในปีที่แล้ว หลังผู้ผลิต 2 รายใหญ่ในยุโรปหยุดผลิตฃ
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการ IVL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้า EBITDA ในระยะเวลา 5 ปี (60-64) จะสูงขึ้นไปแตะระดับ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนที่อยู่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีนี้คาดว่า EBITDA จะเติบโตได้ราว 25% ตามแผนการเข้าซื้อกิจการต่อเนื่อง และโครงการที่ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ อาทิ โรงงานแครกเกอร์ก๊าซในสหรัฐ กำลังการผลิต 450,000 ตัน โรงงานผลิต PTA ในโปรตุเกส กำลังการผลิต 700,000 ตัน และโครงการขยายการผลิตเส้นใยสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนจะเดินเครื่อปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 16-17% จากปีก่อน 9.1 ล้านตัน
ขณะที่ในปีนี้คาดว่าส่วนต่างราคาขายผลิตภัณฑ์ของ PET จะปรับตัวดีขึ้น โดยราคาน่าจะปรับตัวขึ้นไปแตะ 234 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปีก่อนที่ 217 เหรียญสหรัฐต่อตัน ด้วยความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศสหรัฐและสหภาพยุโรป แต่ในส่วนของกำลังการผลิตปรับตัวลดลงหลังผู้ประกอบการรายใหญ่ 2 รายใหญ่ในยุโรปปิดกิจการลงเนื่องจากการมีปัญหาทางด้านการเงิน
นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับปี 61-62 ที่ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีนี้จะลงทุนราว 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่ประกาศไว้แล้ว แต่ยังไม่รวมการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่คาดว่าในไตรมาส 2/61 จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีล โดยปัจจุบันบริษัทฯมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ (Net D/E) อยู่ที่ 0.2 เท่า ซึ่งบริษัทมีนโยบายรักษา Net D/E ไม่ให้เกิน 1 เท่า ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการลงทุนได้อีก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
"IVL มีกลยุทธ์การขยายกิจการโดยการเข้าซื้อกิจการเป็นส่วนใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา และตอนนี้เราก็ยังดำเนินนโยบายแบบนั้นอยู่ เพื่อที่ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 64 เราตั้งเป้า EBITDA โต 2 เท่า จากปี 60 ซึ่งบริษัทฯเรายังมีความพร้อมในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถลงทุนในกรอบเงินทุนราว 7 พันล้านเหรียญ ล่าสุดได้เงินจากการแปลงสภาพวอเร้นท์ 2 ของผู้ถือหุ้นใหญ่มาอีก 220 ล้านเหรียญฯ"นายดีลิป กล่าว