นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจปี 61 ตั้งเป้าหมายมีคนไข้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี โดยช่วงไตรมาส 2/61 มีแผนการลงทุนสร้างอาคารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการของ โรงพยาบาลธนบุรี และ โรงพยาบาลธนบุรี 2 และมีแผนขยายศูนย์หัวใจในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง
ส่วนการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) คาดจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการปลายปีนี้ทั้งศูนย์ตรวจรักษาเฉพาะทางสำหรับผู้ป่วยนอก และห้องพักผู้ป่วยในเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากโรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลในเครือข่าย และ โรงพยาบาลอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียง
รวมถึงการพัฒนาโครงการ Jin Wellbeing County ย่านรังสิต ที่ได้รับอนุมัติ EIA เป็นที่เรียบร้อย และเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ส่วนห้องชุดพักอาศัยเฟสแรกได้ประมาณไตรมาส 4/61
ขณะที่การร่วมทุนในโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา จะเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานระดับสากลเพื่อรองรับความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น มีความคืบหน้าการก่อสร้างตามแผนงาน คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการประมาณไตรมาส 2/61 รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาเป็นที่ปรึกษาและรับบริหารโรงพยาบาลในต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้รวม 1,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,567 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 48.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 106 ล้านบาท ปัจจัยมาจาก รพ.ธนบุรี รพ.ธนบุรี 2 มีปริมาณคนไข้ที่เข้ารับการรักษาและใช้บริการตรวจสุขภาพเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งมีบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนและเครื่องมือในการรักษาที่ทันสมัย อีกทั้งยังบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง และด้วยการนำเงินจาก IPO ไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานปี 60 ที่เติบโตได้ดี โดยมีรายได้รวม 6,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 6,229 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 511 ล้านบาท ปัจจัยมาจากปริมาณคนไข้นอกและคนไข้ในที่เข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานโดยรวมที่ยังคงเติบโตได้ดี
"ปีที่ผ่านมาเราสามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี แม้ว่าประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุจากจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดความต้องการใช้บริการด้านการแพทย์เพิ่มขึ้นเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของ THG" นพ.ธนาธิป กล่าว