นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดว่า ในปี 61 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ประเภทบ้านจัดสรรในหัวเมืองภูมิภาค จำนวน 13 โครงการ ใน 12 จังหวัด (ไม่นับจังหวัดปริมณฑล) โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 33,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 30% แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 26% และคอนโดมิเนียม 4% โดยจะเน้นการพัฒนาแบบบ้านรูปแบบใหม่ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย วางงบลงทุนซื้อที่ดินจำนวน 9,000 ล้านบาท และก่อสร้างไว้ที่ 12,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนในต่างจังหวัด ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในจ.เชียงราย คาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงกลางปีนี้ และอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในจ.พิษณุโลก ,นครสวรรค์ เป็นต้น
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว ศุภาลัย พรีโม่ อุบลราชธานี มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการที่ 4 ของจ.อุบลราชธานี และเตรียมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 1 โครงการในไตรมาส 3/61 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า คือ โนโว วิลล์ อุบลราชธานี มูลค่า 380 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมในอุดรธานี และนครราชสีมา ได้แก่ ศุภาลัย ไพรด์ อุดรธานี มูลค่า 1,800 ล้านบาท ,ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ นครราชสีมา มูลค่า 640 ล้านบาท และโครงการใหม่ในโซนภาคตะวันออก 1 โครงการ คือ ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง บ้านเดี่ยวหรูริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท
"ในปัจจุบันเรามีการลงทุนในต่างจังหวัดสูงที่สุด โดยเน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในหัวเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น ภูเก็ต ,เชียงใหม่ ,สงขลา และชลบุรี เป็นต้น ซึ่งเรามีนโยบายลงทุนจำนวน 3 โครงการขึ้นไปในแต่ละจังหวัด"นายไตรเตชะ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/61 บริษัทเปิดตัวโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,500 กว่าล้านบาท โดยเปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการ คือ ศุภาลัย พรีโม่ บางแสน และเปิดตัวอีก 2 โครงการในช่วงปลายเดือน ก.พ.คือ ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ หาดใหญ่ อีกทั้งเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3 โครงการในเดือน มี.ค.นี้ ได้แก่ เบลล่า วงแหวน - ลำลูกกา คลอง 3 โนโว วิลล์ พหลโยธิน - ลำลูกกา และศุภาลัย พรีโม่ ชัยพฤกษ์ - บางบัวทอง
นายไตรเตชะ กล่าวว่า บริษัทฯยังคงวางเป้าหมายยอดขายรวมในปีนี้ไว้ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท และรายได้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้วางแผนเปิดโครงการใหม่รวม 35 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4 หมื่นล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนกลับมาจ่ายเงินปันผลจากผลงานในปี 61 จากในปีที่ผ่านมาได้งดจ่ายเงินปันผลในงวดปี 60 เพื่อลด Net Gearing ให้อยู่ในระดับ 60-80% และหลีกเลี่ยงการเพิ่มทุน, การออกวอแรนท์ โดยปัจจุบัน Net Gearing Ratio อยู่ในระดับ 69% และจะคงระดับดังกล่าวไปได้อีก 3 ปีข้างหน้า