สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (19 - 23 กุมภาพันธ์ 2561 2560) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 392,929.57 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 78,585.91 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 4% ทั้งนี้เมื่อแยกตาม ประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 72% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 284,640 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขาย เท่ากับ 67,984 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 18,644 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิด ขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB316A (อายุ 13.3 ปี) LB206A (อายุ 2.3 ปี) และ LB226A (อายุ 4.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อ ขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 13,234 ล้านบาท 11,339 ล้านบาท และ 9,488 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รุ่น GED198A (Non-Rated) มูลค่าการซื้อขาย 2,010 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รุ่น CPALL198C (A-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 1,334 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น BJC193A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 1,116 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ด้านปัจจัยต่างประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ปรับลดตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่า GDP ในไตรมาส 4 มีการขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.5% ขณะที่ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (Fed) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของวันที่ 30-31 ม.ค. โดยระบุว่ากรรมการ Fed ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจใน ระยะใกล้นี้ ทำให้ Fed มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานตัวเลขยอดขายบ้าน ใหม่ของสหรัฐฯ ประจำเดือน ม.ค. ในวันจันทร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา (19– 23 ก.พ. 2561) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 3,454 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุ คงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 2,392 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 10,628 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 9,566 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (19 - 23 ก.พ. 61) (12 - 16 ก.พ. 61) (%) (1 ม.ค. - 23 ก.พ. 61) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 392,929.57 377,529.40 4.08% 3,454,258.05 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 78,585.91 75,505.88 4.08% 90,901.53 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 107.64 107.7 -0.06% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.89 105.92 -0.03% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (23 ก.พ. 61) 1.11 1.3 1.4 1.59 1.85 2.55 2.97 3.27 สัปดาห์ก่อนหน้า (16 ก.พ. 61) 1.11 1.32 1.41 1.59 1.85 2.56 2.94 3.27 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 -2 -1 0 0 -1 3 0