นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล่า (ALLA) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มของผลประกอบการในปี 61 มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นหลังจากปริมาณงานเครน และรอกไฟฟ้า รวมถึงประตูอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ในขณะเดียวบริษัทฯยังคงแผนการขยายธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
ในขณะที่ในปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อยมีมูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ เดือน ธ.ค.61 มูลค่าประมาณ 301 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.59 จำนวน 77 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มสูงขึ้น 34% ซึ่งงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้ ­ตั้งแต่ไตรมาส 1/61 เป็นต้นไป
บริษัทได้ปรับแผนการลงทุนสำหรับการขยายโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีแผนที่จะย้ายคลังสินค้าของบริษัทฯบางส่วนไปที่คลังสินค้าแห่งใหม่ของบริษัทย่อย ซึ่งจะเป็นผลให้บริษัทฯ จะมีพื้นที่ในการผลิตมากขึ้น บริษัทฯจึงเปลี่ยนแปลงแผนการใช้เงินทุน จากเดิมมีแผนที่จะซื้อที่ดินเพื่อขยายโรงงานของบริษัทฯที่ตำบลเกาะไร่ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นการปรับปรุงพื้นที่การใช้งานโรงงาน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2/61 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/62 ซึ่งจะทำให้บริษัฯลดมูลค่าการลงทุนได้กว่า 23 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานของเราในปีที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากการขาย และบริการที่เพิ่มสูงขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย และบริการของประตูอุตสาหกรรม และสะพานปรับระดับ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจประเภท Logistic Hypermarket และกลุ่มเกษตร และอาหาร ส่วนการปรับแผนการลงทุนนั้น บริษัทฯเล็งเห็นโอกาสในการประหยัดต้นทุน และความระมัดระวังการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เหมาะสมกับโอกาส และสถานการณ์ เพื่อรักษาต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นในอนาคต" นายองอาจ กล่าว