BJCHI ลุ้นปีนี้พลิกมีกำไรหากได้งาน High Potential,ศึกษาโยกเงินฝากสกุลดอลลาร์ลงทุนด้านอื่นหวังผลตอบแทนดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 26, 2018 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิทยา เชียงอุทัย ผู้จัดการฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) กล่าวว่า บริษัทมองว่าปีนี้มีโอกาสที่ผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 523.87 ล้านบาท หากบริษัทได้รับงาน High Potential Projects ที่เข้าเสนอราคราจำนวน 7 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังได้รับงานดังกล่าวอย่างน้อย 50-60%

ขณะที่ในแง่ของรายได้ก็น่าจะเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ราว 1,512.70 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอุตสาหกรรมพลังงานที่เติบโตขึ้นหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูงประมาณ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บางร์เรล ส่งผลทำให้กลุ่มพลังงานมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ฉะนั้น จึงส่งผลดีต่อเนื่องมายังงานรับเหมาก่อสร้างด้วย

บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ทั้งสิ้น 56 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท คาดหวังได้รับงานราว 25% โดยเฉพาะงานประเภท High Potential Projects คาดว่าจะทยอยประกาศผลตั้งแต่ไตรมาส 1/61 เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็น งาน Oil&Gas Upstream ในประเทศบราซิล คาดจะรู้ผลในไตรมาส 2/61,งาน Oil&Gas Downsteam ในบราซิล จะรู้ผลในไตรมาส 2/61, งาน Reinery ในแอฟริกา จะรู้ผลในไตรมาส 1/61, งาน Petrochemical&LNG ในประเทศไทย จะรู้ผลไตรมาส 2/61, งาน Petrochemical ในประเทศไทย จะรู้ผลในไตรมาส 1/61 ,งาน Petrochemical ในสหรัฐฯ จะรู้ผลไตรมาส 2/61 และงาน Oil ในแอฟริกาใต้ จะรู้ผลไตรมาส 2/61

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 300 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปีนี้ทั้งหมด

นายวิทยา กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเข้ารับงานในประเทศมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้สัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40% และในต่างประเทศจะอยู่ที่ 60% จากเดิมงานในประเทศอยู่ที่ 10% ต่างประเทศ 90% แต่อย่างไรก็ตามก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการรับงานในต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง

สำหรับผลกระทบจากปัจจัยค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่านั้น บริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วบางส่วน ส่วนที่เหลือจะยังคงเก็บเงินสกุลดออลาร์ไว้ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการที่บริษัทเข้าไปประมูล จำนวน 7 โครงการข้างต้น ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างมองหาผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากด้วย เช่น การลงทุนในกองทุนรวม ,ตราสารหนี้ และตราสารทุน เป็นต้น คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนได้ใน 2-3 เดือนนี้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีเงินสดอยู่ในบัญชีราว 1,200 ล้านบาท ซึ่ง 90% เป็นเงินสกุลดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ