นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า หลังจากที่ PTTGC ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นและร่วมบริหารบริษัทสายปิโตรเคมี ที่ได้รับโอนจาก บมจ.ปตท. (PTT) ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 โดยภารกิจแรกสำหรับ บริษัท HMC Polymers (HMC), บริษัท PTT Asahi (PTTAC) และบริษัท PTTMCC Biochem (PTTMCC) ก็คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรผู้ถือหุ้นของทั้ง 3 บริษัท ในฐานะผู้ถือหุ้นใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจ สร้างกลยุทธ์ร่วม และนำศักยภาพของทั้งสองฝ่าย มาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ทั้งสองฝ่ายร่วมกัน
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดแผนงานสร้างมูลค่าเพิ่มร่วมกัน (Synergy value) ซึ่งจะดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2561 โดยการลงทุนในธุรกิจ ABS (Acrylonitrile-Butadiene-Styrene) ซึ่งเป็นพลาสติกที่สำคัญใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยใช้วัตถุดิบหลัก ได้แก่ อะคริโลไนไตรล์ (Acrylonitrile:AN) ที่ผลิตได้จากบริษัท PTTAC ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมกับวัตถุดิบหลัก Butadiene ซึ่ง PTTGC ผลิต
รวมทั้งวัตถุดิบ Ethylene และ Benzene ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต Styrene Monomer (SM) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงงานผลิต SM ซึ่งจะช่วยเติมเต็มห่วงโซ่ธุรกิจ (Business Value Chain) ของธุรกิจ Polystyrene (PS) ในปัจจุบัน และรองรับการขยายธุรกิจ ABS อันจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการบูรณาการตลอดสายห่วงโซ่ (Integration and Synergy Value) และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสายธุรกิจนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้บทสรุปและผลการศึกษาในระยะเวลาอันใกล้
ในส่วนของบริษัท HMC ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจสาย Polypropylene (PP) จะเพิ่มศักยภาพในการขายและเข้าถึงลูกค้าของ PTTGC ได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเป้าหมายใน CLMV และอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ตลอดจนการนำเม็ด PP มาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการต่อยอดธุรกิจด้าน High Value Products (HVP)
นอกจากนี้ บริษัท PTTMCC ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ PBS (Poly Butylene Succinate) ถือเป็นบริษัทใหม่ที่ต้องอาศัยเวลาและศักยภาพในการหาตลาดและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งผู้ถือหุ้นทั้งสองฝ่าย ได้แก่ Mitsubishi Chemical Corporation (MCC) และ PTTGC ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ทั้งด้านการขายและการตลาด ไปยังทวีปอเมริกาและยุโรป ที่มีข้อกำหนดด้านมาตรฐานการดำเนินนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาทิ การทดลองผสมเม็ด PLA ของบริษัท NatureWorks กับเม็ด PBS เพื่อพัฒนาคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่นและทนความร้อนได้สูงขึ้น รวมถึงการทดสอบการละลายตามธรรมชาติในน้ำทะเล (Marine degradable) ซึ่ง PTTGC มีความเชื่อมั่นว่า PTTMCC จะสามารถเร่งสร้างยอดขายและหาลูกค้าพันธมิตร (Strategic customers) ได้ตามแผน
"ในปี 60 ที่ผ่านมา ทั้ง 3 บริษัทมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจและสูงกว่าประมาณการที่ประเมินไว้ตอนเข้าซื้อกิจการ ซึ่งเป็นผลจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนการเดินเครื่องโรงงานที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถผลิตได้ตามแผน และการดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ร่วมกันของ PTTGC และพันธมิตรผู้ถือหุ้นของทั้ง 3 บริษัท"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว