นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 60 ว่า กิจการส่วนใหญ่ของบริษัทได้มีการขยายตัวตามเป้าหมายและมีผลการดำเนินงานตามที่คาดไว้ หากแต่ความท้าทายเกิดขึ้นในธุรกิจสุกรในเอเซียที่ภาวะราคาเนื้อสุกรต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการเสริมสร้างประสิทธิภาพองค์กรทั้งด้านกระบวนการทำงานและกระบวนการผลิต ทำให้คาดว่าในปี 2561 นี้ ยอดขายของบริษัทน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 5-8%
อนึ่ง ในปี 60 บริษัทมียอดขาย 501,507 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี 59 และมีกำไรสุทธิ 15,259 ล้านบาท เติบโต 3.78% จากปี 59 ซึ่งส่วนใหญ่เติบโตมาจากกิจการจากต่างประเทศ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานกรรมการบริหาร ของ CPF กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมจากเนื้อสัตว์และอาหารในรูปแบบการผลิตแบบครบวงจร และได้ขยายกิจการไปยังประเทศต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ ทำให้ซีพีเอฟ ณ ปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจใน 16 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจ โดยในปี 60 นั้น กิจการในต่างประเทศมีสัดส่วน 64% ของยอดขายรวม จึงมองโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคตส่วนใหญ่จะมาจากกิจการในต่างประเทศเหล่านั้น อันรวมถึง สาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม รัสเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ของ CPF กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารที่นอกเหนือจากการมีรสชาตที่ถูกใจแล้ว ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับคุณภาพความปลอดภัยของกระบวนการที่ทำให้ได้มาซึ่งอาหารนั้น บริษัทจึงมีการลงทุนในการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร รวมถึงการสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับในการผลิตเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในสินค้าอาหารของบริษัท ในปี 60 นั้น ธุรกิจอาหารมีการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน บริษัทคาดว่าในปีนี้น่าจะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากกิจการในต่างประเทศ