นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลง ซึ่งเป็นไปตามตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นเกือบ 400 จุด หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯเริ่มนิ่ง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ด้วย หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียจะลดกำลังการผลิตในไตรมาส 1/60 ให้ต่ำกว่าเพดานการผลิต ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้น
ส่วนบ้านเราก็คงจะมีการเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการของบริษัท และการจ่ายปันผล อีกทั้งวันนี้ให้จับตาประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่จะแถลงต่อสภาคองเกรส ซึ่งเป็นการให้ความเห็นเป็นครั้งแรกต่อสาธารณชน
พร้อมให้แนวรับ 1,820-1,825 จุด ส่วนแนวต้าน 1,840-1,850 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 ก.พ.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,709.27 จุด พุ่งขึ้น 399.28 จุด (+1.58%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,779.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.30 จุด (+1.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,421.46 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด (+1.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 238.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 292.25 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 59.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.43 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.12 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7.07 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 7.70 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ก.พ.61) 1,834.18 จุด เพิ่มขึ้น 26.12 จุด (+1.44%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 96.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.พ.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 ก.พ.61) ปิดที่ระดับ 63.91
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ก.พ.61) ที่ 7.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.27 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 31.20-31.30 จับตาประธานเฟดคนใหม่แถลงนโยบายรอบครึ่งปีคืนนี้
- "บอร์ดอีอีซี" เคาะรายละเอียดรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา 220 กม. วงเงินลงทุน 2 แสนล้านจ่อเสนอ ครม.เริ่มเปิดประมูลนานาชาติ มี.ค.นี้ มั่นใจลงนามเอกชนปีนี้พ่วงโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ หวังลดหนี้ รฟท. เคาะผลตอบแทนลงทุนกว่า 17% รวม 7 แสนล้าน เคาะค่าโดยสารมักกะสันอู่ตะเภา 330/เที่ยว
- สศค. ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกส่อโตเกินคาด หลัง 3 เครื่องชี้วัดเดือนม.ค.สูงกว่าที่ประเมิน "ส่งออก" โตสุดรอบ 62 เดือน ขณะการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นชัด ด้านความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมพุ่งสูงสุดรอบ 36 เดือน ส่วนเศรษฐกิจต่างจังหวัดโตทุกภูมิภาค
- การประชุมคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) วันที่ 8 มี.ค.นี้ จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ในการเสนอขายเหรียญดิจิทัลให้คนทั่วไป (ไอซีโอ) ขณะนี้ทาง ก.ล.ต.กำลังเร่งร่างรายละเอียดให้รอบคอบเพื่อให้กฎเกณฑ์ที่จะออกมาควบคุมไอซีโอสามารถปฏิบัติได้จริง และไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ โดย ก.ล.ต.มุ่งเน้นไปที่การคุ้มครอง นักลงทุนรายย่อย
- ตลาดหลักทรัพย์คาดจำนวนผู้ลงทุนปีนี้ ทะลุ 1 ล้านคนเป็น ครั้งแรกอานิสงส์ตลาดหุ้นคึกคัก รับเป็นนักลงทุนหน้าใหม่แห่เทรด เดินหน้าให้ความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้าน "เอสบีไอ" รับทำการตลาดในไทยไม่ง่าย เพราะ ผู้ลงทุนต้องการมากกว่าราคาถูก เร่งปรับกลยุทธ์คาดเคาะแผนได้เม.ย.นี้
- อสังหาฯแข่งเดือดจับกลุ่มลูกค้าเกรดกลาง-บน แย่งซื้อที่ดินกลางกรุงดันราคาพุ่งสูงสุดวาละ 3 ล้าน ที่ตาบอดก็เอา เหตุตลาดล่างยังเจอปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านแบงก์เข้มหนี้ครัวเรือนยังสูง เปิดสถิติราคาบ้านในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี 58 ราคาขยับขึ้น 105%
*หุ้นเด่นวันนี้
- ABM (บมจ. เอเชีย ไบโอแมส) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มทรัพยากร โดยเสนอราคาขาย IPO 1.80 บาท/หุ้น บล.ทรีนีตี้ ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.51 บาท/หุ้น ประเมินปี 2560 จะเป็นจุดต่ำสุดคาดกำไรสุทธิราว 14 ล้านบาท เนื่องจากการเร่งระบายสินค้ากะลาปาล์มจากมาตรการภาษีส่งออกในอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะกลับมาเป็นภาวะปกติในปีนี้ ประเมินกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 38 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 49 ล้านบาท โดย คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ย(CAGR) ปี 2560-2562 ราวร้อยละ 89.8 ต่อปี
ปัจจุบัน ABM ประกอบธุรกิจจัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass Fuel) หลากหลายประเภท ซึ่งเชื้อเพลิงนี้สามารถให้ความร้อนได้ดี ได้แก่ กะลาปาล์ม ไม้สับและส่วนอื่นๆของไม้ ขี้กบ ขี้เลื่อยและฝุ่นไม้ ชีวมวลอัดแท่ง และเชื้อเพลิงชีวมวลอื่น เช่น แกลบ ซังข้าวโพด เหง้ามันสับ เป็นต้น โดยบริษัทมีคลังสินค้า 8 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ สามารถเก็บสินค้าได้มากกว่า 2.4 แสนตัน อีกทั้งมีบริการขนส่งด้วยกองรถบรรทุกของกลุ่มบริษัทในเครือ และการว่าจ้างผู้ขนส่งภายนอก รองรับความต้องการของลูกค้าได้ทั่วประเทศ
- RJH (เคทีบี) "ซื้อ" เป้า 37.00 บาท รายงานกำไรสุทธิ Q4/60 ที่ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% YoY แต่ลดลง 22% QoQ ดีกว่าตลาดคาด 7% แต่ใกล้เคียงกับที่คาด โดยการเติบโต YoY เนื่องจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการปรับค่าบริการของ สปส. และจำนวนคนไข้เงินสดเพิ่มขึ้น รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง สำหรับรวมทั้งปี 2560 มีกำไรสุทธิ 231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% YoY ส่วนปี 2561 ปรับกำไรสุทธิขึ้น 4% จากประกาศเข้าถือหุ้น RRH เพิ่มอีก 46% เป็นถือ 100% ซึ่งมองเป็นบวก เนื่องจาก RRH มีผลการดำเนินงานดี โดยปี 2560 มีกำไรปกติที่ 27 ล้านบาท ซึ่งคาดปี 2561 จะมีกำไรปกติ (สุทธิ) 40 ล้านบาท เติบโต 48% YoY ดังนั้นการเข้าถือหุ้นเพิ่มจะทำให้กำไรปกติของ RJH ในปี 2561 เติบโตได้ 21% YoY
- ADVANC (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 219 บาท ยังคงอันดับหนึ่งได้อย่างต่อเนื่องทั้งในด้านส่วนแบ่งทางการตลาดและรายได้รวม อีกทั้งยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้านเงินปันผลของรอบผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2560 จ่ายในวันที่ 26 เมษายน 2561 ที่ 3.57 บาท/หุ้น (Yield 1.8%) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 เมษายน 2561 สำหรับปี 61 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโครงข่าย) เพิ่มขึ้น 7-8%YoY โดย 2% มาจาก CSL ที่จะรับรู้รายได้เต็มปีซึ่งส่วนเพิ่มนี้มาจากกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งเป็นลูกค้าเดิมของ CSL ทั้งนี้เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าองค์กรสำหรับ ADVANC อีกด้วย โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ลูกค้าองค์กรจากเดิม 9% เพิ่มเป็น 25% ใน 3 ปี สำหรับลูกค้ากลุ่มอื่น ADVANC ยังคงมุ่งเน้นที่จะเพิ่มลูกค้าที่มีคุณภาพโดยเฉพาะกลุ่ม Post-Paid
- EKH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7 บาท กำไร Q4/60 แกร่งกว่าคาด -41% Q-Q, +29% Y-Y เป็น 22 ล้านบาท จากรายได้ที่โตดีและค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่ำกว่าคาด ทำให้กำไรทั้งปี 2560 จบที่ 84 ล้านบาท +11% Y-Y เป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โมเมนตัมยังดีต่อในปี 2561 โดยเฉพาะ Q1/61 ที่ได้อานิสงส์จากโรคท้องร่วงระบาด ระยะกลาง-ยาวได้ประโยชน์จากการเริ่มเปิดศูนย์ผู้มีบุตรยาก (EKH ถือหุ้น 57%)