นายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) หรือ TOA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจยอดขายปี 2561 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยจะเร่งเพิ่มยอดขายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและกลุ่มผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิว หลังจากภาพรวมความต้องการใช้สีทาอาคาร เริ่มฟื้นตัวนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอยที่ปรับตัวดีขึ้นหลังรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อบรรยากาศการซื้อสินค้าที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าภาพรวมยอดขายของไตรมาส 1/61 จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย หลังจากบริษัทฯ ได้ตัดสินใจทยอยปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาใหม่เริ่มมีผลอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นไป และจะมีผลให้ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จะเร่งรุกขยายตลาดต่างประเทศในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยปัจจุบัน TOA อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตสีอีก 3 แห่งในภูมิภาคอาเซียน ใช้งบลงทุนรวมกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 14.5 ล้านแกลลอนต่อปี รวมเป็น 102.5 ล้านแกลลอนต่อปี
"เรามีเป้าหมายทำผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยมองตลาดสีทาอาคารมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงมองเป็นโอกาสดีของ TOA ที่จะเร่งขยายตลาดโดยใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศและเครื่องผสมสีอัตโนมัติในการกระจายสินค้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด" นายพงษ์เชิด กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 4,260.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขาย 3,739.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 466.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.0% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีกำไรสุทธิ 342.7 ล้านบาท โดยปัจจัยการเติบโตมาจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารในทุกเซกเมนต์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ประกอบกับภาพรวมบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยที่เริ่มฟื้นตัวรวมถึงการเข้าสู่ฤดูการขายของสินค้า ส่งผลให้ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อเก็บสต๊อกไว้
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2560 ถึงแม้ชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยมีรายได้จากการขาย 15,717.7 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,703.4 ล้านบาท แต่จากภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้และบรรยากาศการซื้อสินค้าที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2561 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและเติบโตได้ตามเป้าหมาย