นายหะริน อุปรา กรรมการ บมจ.พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปี 61 จะเติบโตได้ราว 10-15% จากปีก่อน เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งผลดีต่องานให้บริการวางระบบในธุรกิจไฟแนนซ์, เทเลคอมมีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจบริการหลังการขายมีแนวโน้มที่ดีขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมาจากการให้บริการฯธุรกิจไฟแนนซ์ 42.73%, งานเทเลคอม 8.54% และงานบริการ 15.57% ที่เหลือจะเป็นงานอื่นๆ คาดว่าในปีนี้ก็น่าจะอยู่ใกล้เคียงเดิม
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ขณะที่ยังอยู่ระหว่างประมูลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติมอีก มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยต่างประเทศจะเป็นที่ประเทศเมียนมา มูลค่าประมาณหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งงานส่วนใหญ่จะเป็นงานธนาคาร และงานเทเลคอม ที่มีมูลค่าและมาร์จิ้นสูง คาดว่าจะทยอยทราบผลได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯ ได้เข้าไปรับงานภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของงานภาครัฐลง ซึ่งงานภาคเอกชนถือว่ายังมีคู่แข่งที่ไม่มากเมื่อเทียบกับงานภาครัฐ และเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อมาร์จิ้นของบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนจากงานขายและงานบริการหลังการขายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยจากเดิมการขาย มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20% และงานบริการอยู่ที่ 40-45%
"ปีนี้เราตั้งเป้าหมายรายได้และกำไรสุทธิเติบโต 10-15% โดยงานให้บริการไฟแนนซ์ยังเป็นพระเอกอยุ่ในปีนี้ รองลงมาก็จะเป็นเทเลคอม และงานบริการหลังการขาย เป็นไปตามเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศก็มีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อว่าในปีนี้ปัจจัยเสี่ยงที่จะเข้ามาส่งผลกระทบกับธุรกิจคงไม่มีแล้ว ซึ่งคงขึ้นอยู่กับการแข่งขันโดยตรง"