โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรบินสัน (ROBINS) หลังมองกำไรปี 61 จะกลับมาเติบโตหลังจากหดตัวลงในปีที่แล้ว โดยยอดขายสาขาเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ในปีนี้ตามแรงหนุนของการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง และการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำที่มีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้ ตลอดจนการเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งในปีนี้ที่เป็นรูปแบบ Lifestyle Center จะช่วยเพิ่มรายได้ทั้งในส่วนของการขายและค่าเช่า ช่วยหนุนผลการดำเนินงาน และหนุนอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ให้ดีขึ้นด้วย
ด้านราคาหุ้น ROBINS นับตั้งแต่ต้นปี 61 ปรับลดลงราว 9% สวนทางกับตลาดหุ้นไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 4.5% ขณะที่ราคาปัจจุบันยังมี Upside อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเป้าหมายของโบรกเกอร์ และยังมีการซื้อขายที่ PER ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกด้วย ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุน
ราคาหุ้น ROBINS ช่วงบ่ายอยู่ที่ 66.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.09%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 82.90 บัวหลวง ซื้อ 78.00 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 85.00 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 83.50 ทรีนีตี้ ซื้อ 83.25 เคจีไอ (ประเทศไทย) Outperform 85.00 เออีซี ซื้อ 79.00 เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 79.00
นางสาวสุรีย์พร ทีวะสุเวทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ ROBINS ในปีนี้จะกลับมาเติบโตหลังจากหดตัวลงในปีที่แล้ว หลังจากที่กำลังซื้อในประเทศฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต จะช่วยหนุนให้อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ฟื้นตัวได้ราว 3% ในปีนี้จากที่ติดลบ 3.2% ในปีที่แล้ว ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่อีก 2 แห่ง ก็จะช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิปีนี้ทำได้ในระดับ 3.19 พันล้านบาท เติบโตราว 16% จากปีก่อน
"ในเชิงพื้นฐานเรายังชอบ ROBINS อยู่ เพราะตั้งแต่ไตรมาส 1/61 SSSG จะกลับมาฟื้นตัวหลังติดลบ 3.4% ในช่วงไตรมาส 4/60 ซึ่งก็จะผลักดันให้ SSSG ทั้งปีนี้กลับมาเติบโตได้จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ก็มีการปรับขึ้นค่าแรงด้วย ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก รวมถึงมาตรการช่วยเหลือที่ให้ผู้ประกอบการนำรายจ่ายค่าจ้างรายวันมาลดหย่อนภาษีได้ ROBINS ก็น่าจะได้รับประโยชน์จากตรงนี้ด้วย อีกทั้งในช่วงไตรมาส 2 ก็เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจด้วย"นางสาวสุรีย์พร กล่าว
นางสาวสุรีย์พร คาดว่า อัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ของ ROBINS ในปีนี้จะปรับตัวขึ้นด้วย จากการกลับมาเน้นปรับ Product Mix เพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand ต่อเนื่องหลังจากที่ได้ชะลอตัวลงไปในปีที่ผ่านมา เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนักทำให้ ROBINS เน้นการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย ประกอบกับมีการเคลียร์สต็อกเก่าทำให้การโฟกัสเกี่ยวกับสินค้า House Brand ลดลงไป แต่เชื่อว่าจะกลับมาเน้นหนักมากขึ้นในปีนี้
นอกจากนี้ ตามแผนเปิดสาขาใหม่ 2 แห่งในรูปแบบ Lifestyle Center ทั้งคู่ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มรายได้จากการขายแล้ว ยังช่วยสร้างการเติบโตของรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่าประมาณการกำไรสุทธิของ ROBINS ปี 61 ที่ระดับ 3.32 พันล้านบาท ขยายตัวเร่งขึ้นเป็น 21% จากปีก่อน โดยได้รับแรงผลักดันมาจากการบริโภคที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ SSSG คาดกลับมาเป็นบวก 2% จากติดลบราว 2.6% ในปีก่อน อีกทั้งมองว่าการใช้กลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จาก House Brand เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น และการปรับผังการใช้พื้นที่ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น เอื้อต่อการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การทยอยเปิดสาขาใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไปราว 2-3 สาขา/ปี อาจทำให้ ROBINS เติบโตไม่เด่น แต่มีความมั่นคง ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 เชื่อว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/60 สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.ทำระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อีกทั้งมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากภาครัฐที่ออกมาต่อเนื่องก็จะเป็นหนุนภาพรวมการดำเนินงาน
ทั้งนี้ ปรับคำแนะนำขึ้นจาก "เก็งกำไร" เป็น "ซื้อ" หลังราคาหุ้นลดลงนับตั้งแต่ต้นปี และราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER61 เท่ากับ 24.6x ต่ำที่สุดในกลุ่มค้าปลีก
บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อ ROBINS โดยปี 61 คาดว่ามีกำไรสุทธิ 3.02 พันล้านบาท เติบโต 10.3% จากปีก่อน ด้วยแรงหนุนหลักจากยอดขายรวมที่คาดเพิ่มขึ้น 3% เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้นและอานิสงส์จากมาตรการท่องเที่ยวเมืองรอง โดย ROBINS มีสาขาในเมืองรองราว 21 แห่ง เชื่อว่าจะช่วยหนุนให้ปีนี้ยอดขายสาขาเดิมพลิกกลับมาเติบโตราว 1% บวกกับจะมีการรับรู้ยอดขายเต็มปีจากสาขาเปิดใหม่ในปีก่อน รวมทั้งยอดขายสาขาใหม่บางส่วนที่จะทยอยเปิดปีนี้อีก 3 แห่ง
นอกจากนี้ในด้านรายได้จากการลงทุนคาดเติบโต 9.5% จากปีก่อน จากพื้นที่เช่าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนสาขาที่มีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเน้นเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบ Lifestyle Center ซึ่งมีพื้นที่เช่าสูงกว่าสาขารูปแบบปกติ โดยยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น ROBINS ที่ยังมีกำไรที่เติบโตได้ในระยะยาว อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside อยู่มากเมื่อเทียบกับราคาพื้นฐาน