VTE เปลี่ยนชื่อเป็น"เมตะ คอร์ปอเรชั่น" พร้อมแต่งตั้ง CEO ใหม่ เน้นลงทุนเพิ่มในเมียนมาร์ คาดสร้างรายได้กว่า 1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 1, 2018 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. วินเทจ วิศวกรรม (VTE) รายงานผลการดำเนินงานชองบริษัทฯ ประจำปี 2560 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2560 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาประเทศอย่าง B/E Crisis ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ต้องแบกรับภาระด้านค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ก้าวผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวมาได้ โดยวิธีการเพิ่มทุน การเสนอขายพันธบัตร (Bond) และการขายสินทรัพย์และธุรกิจขนาดเล็กทั้งในและต่างประเทศ การขายสินทรัพย์ต่างประเทศออกไปนั้น ส่งผลให้บริษัทฯมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้น และยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกหลายอย่าง อาทิเช่น ค่าใช้การในการควบรวมกิจการ (M&A) และค่าที่ปรึกษาอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งอาจแสดงให้เห็นถึงการขาดทุนทางบัญชีของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีมติแต่งตั้งให้ นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป

นายศุภศิษฏ์ กล่าวว่า การขายสินทรัพย์ดังกล่าวทำให้บริษัทฯมีกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปลดภาระทางการเงินที่สูงและเพื่อนำไปใช้หมุนเวียนภายในของบริษัทฯ รวมถึงยังสามารถนำไปใช้ลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูที่ประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมอีก 15% จากเดิมที่ 12% ภายหลังจากการได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เมษายน 2561 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯถือหุ้นในบริษัทพลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP) ทั้งหมด 27% และหลังจากโครงการสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบนั้น บริษัทฯจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาวได้ถึง 30 ปี

นอกจากนี้บริษัทฯ จะยังคงสามารถรับรู้รายได้จากการที่บริษัทฯเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักของโครงการดังกล่าว ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างมากมายให้กับบริษัทฯคิดตามมูลค่าสัญญาประมาณ 10,000 ล้านบาทในระยะเวลา 4 ปี หรือ เฉลี่ยประมาณ 2,500 ล้านบาทต่อปี และทางบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศ อาทิเช่น ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ อีกทั้งยังมั่นใจว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ของภูมิภาคเอเชียอย่างแน่นอน

อีกทั้ง คณะกรรมการได้อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อของบริษัทฯ จากเดิม บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (Meta Corporation) อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ