นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 60 มีรายได้รวม 963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 881.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.4 ล้านบาท หรือ 74.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 118.74 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้และกำไรของ EPCO ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ ได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่ง EPCO ลงทุนผ่าน บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น 435.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง และโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟท็อป จำนวน 75.5 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นในประเทศ 24 เมกะวัตต์ และประเทศญี่ปุ่น 45 เมกะวัตต์ และโซลาร์รูฟท็อป 6.5 เมกะวัตต์
"เรามีแผนนำ EP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปี 2561 โดยจะจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมด้วย ในอัตราส่วน 4 หุ้น EPCO ต่อ 1 หุ้นไอพีโอ EP ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้ ผลักดันรายได้และกำไรของ EPCO เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นแน่นอน เนื่องจากมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการเพิ่มฐานรายได้และกระจายความเสี่ยงธุรกิจให้กับบริษัทฯได้เป็นอย่างดี"นายยุทธ กล่าว