นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 61 ไว้ที่ 2,800 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากงานภาครัฐ 70% และภาคเอกชน 30% แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการเข้ารับงานภาครัฐทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สามารถรองรับงานโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้า Precast เน้นออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape ซึ่งมีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์ Precast ของบริษัทเข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape ในปีนี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้มากขึ้น
นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อาทิ ไทวัสดุ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ภายในปีนี้ 60% โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 61 ภาพรวมอุตสาหกรรมในปีนี้ ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเป็นผลจากการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อาทิ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา ทยอยเริ่มดำเนินงานก่อสร้าง
อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานถนน กำแพงกันดิน อาคารสำนักงาน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มมีการลงทุนเปิดโครงการใหม่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนในภาคธุรกิจอื่นๆอาทิ นิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มเห็นการลงทุนที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง 61
สำหรับผลประกอบการปี 60 ว่า มีรายได้รวมจำนวน 2,362.59 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,326.21 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ จำนวน 39.22 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการตามงบเฉพาะกิจการ มีรายได้รวมจำนวน 1,561.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.59 ล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปี 2559 ที่มีรายได้รวมจำนวน 1,541.79 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องมาจากปริมาณการขายสินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ที่เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mixed) มีการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้ยอดขายใกล้เคียงกับปี 59