โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานทีดี โดยคาดกำไรปี 61 จะเติบโตดีอย่างต่อเนื่องจากปี 60 ทั้งจากยอดขายสาขาเดิม โดยอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) น่าจะพื้นตัวได้ดี และยอดขายของสาขาใหม่ โดยปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก อีกทั้งมองว่าบรรยากาศการจับจ่ายจะกลับมาดีขึ้น
นอกจากนี้ CPALL ได้ถือหุ้น MAKRO จะได้รับผลดีจากแนวโน้ม SSSG ของ MAKRO จะเติบโตขึ้น รวมทั้งจากการตั้งสาขาใหม่เช่นกับ CPALL โดยมีแผนขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดสาขาแรกที่กัมพูชาได้รับการตอบรับที่ดีมาก และยังมีแผนเปิดสาขาแรกทั้งในอินเดียและจีนภายในปีนี้ด้วย
สำหรับประเด็นการทำ Banking Agent เชื่อว่า CPALL สนใจทำหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดทาง แต่คงต้องรอดูข้อตกลงกับแบงก์ต่าง ๆ ด้วย เบื้องต้นคาดทำ Banking Agent ช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าเข้าร้าน 7-11 ส่งผลดีต่อยอดขายสินค้า จึงมองเป็นบวกสำหรับประเด็นนี้
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ไว้ในช่วง 22,900-24,481 ล้านบาท เติบโต 15% จากปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 19,908 ล้านบาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ทรีนีตี้ ซื้อ 101.00 ดีบีเอส วิคเคอร์ฯ ซื้อ 95.00 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 98.00 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 94.00 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 94.00 เออีซี ซื้อ 90.00
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า CPALL เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานทีดี หลังจากที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/60 ออกมาค่อนข้างดี หากคิดเป็นรายไตรมาสกืถือว่าทำ New High ด้วย และปีนี้ก็คาดการณ์กำไรจะเติบโตดีได้อย่างต่อเนื่องจากปี 60 ทั้งจากยอดขายสาขาเดิม โดยอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) น่าจะพื้นตัวได้ดี และยอดขายของสาขาใหม่ โดยปีนี้ CPALL มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 700 สาขา ซึ่งก็น่าจะทำได้
นอกจากนี้ CPALL ได้ถือหุ้น MAKRO ในสัดส่วน 78% ซึ่งก็จะได้รับผลดีไปด้วย จากที่แนวโน้มการเติบโตของ MAKRO ที่ดีขึ้น โดย SSSG ของ MAKRO ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น โดยเติบโตได้จากยอดขายสาขาเดิม และสาขาใหม่เช่นกัน
สำหรับประเด็นการทำ Banking Agent คงต้องรอดูแบงก์ชาติก่อนว่าจะมีรายละเอียดกฎเกณฑ์อย่างไร หากทำได้ก็เชื่อว่า CPALL สนใจที่จะทำ และต้องดูข้อตกลงกับทางแบงก์พาณิชย์ด้วย แต่เบื้องต่นการทำ Banking Agent น่าจะช่วยเพิ่มลูกค้าเข้าร้าน 7-11 และทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมองเป็นบวกสำหรับประเด็นนี้
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ไว้ที่ 22,900 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 19,908 ล้านบาท
ด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำ"ซื้อ"หุ้น CPALL เนื่องจากมีความน่าสนใจในการลงทุนจากมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 ออกมาดีกว่าคาด โดยทำจุดสูงสุดใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศการจับจ่ายที่ไม่เป็นใจ และเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานในอนาคตที่จะดียิ่งขึ้น จากบรรยากาศการจับจ่ายที่ดีขึ้น หนุนผลประกอบการ โดยคงแผนการขยายสาขาปีละ 700 สาขา ซึ่งทำได้เกินเป้าทุกปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากการ Synergy กับ MAKRO ในระยะยาว และการออก Perpetual Bond จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงตลอดปี สัดส่วน Net D/E ลดลงมาอยู่ที่ 1.64 เท่า ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ อีกทั้งยังมี Upside Risk จากประเด็น Banking Agent หนุน
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61-62 ขึ้น 14% เป็น 24,257 ล้านบาท และ 28% เป็น 28,916 ล้านบาท ตามลำดับ จากที่ทำประมาณการปี 60 ต่ำเกินไปและปรับขึ้นเพื่อสะท้อนอัตราการเติบโตสาขาเดิมของร้านสะดวกซื้อ (SSSG) ที่กลับมาฟื้นตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาส 4/60 ที่เป็น +6%YoY นับว่าสูงที่สุดในรอบ 4 ปี อีกทั้งมองว่าบรรยากาศการจับจ่ายจะกลับมาดีขึ้นในปี 61
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า CPALL จบปี 60 ด้วยจำนวนสาขาทั้งหมดที่ 10,268 แห่ง และมีกำไรสุทธิปี 60 เท่ากับ 19,907 ล้านบาท (+19.4% Y-Y) แนวโน้มกำไรจะยังเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ ทั้งจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อ และยังมีแผนขยายสาขาใหม่ในอัตราเร่งไม่น้อยกว่าปีละ 700 แห่ง กอปรกับคาดผลการดำเนินงานของ MAKRO จะเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน จากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดสาขาแรกที่กัมพูชาได้รับการตอบรับที่ดีมาก และยังมีแผนเปิดสาขาแรกทั้งในอินเดียและจีนภายในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ขึ้น 4.6% เป็น 24,481 ล้านบาท (+23% Y-Y) สะท้อนพัฒนาการอัตรากำไรขั้นต้นที่ทำได้ดีกว่าคาด, ดอกเบี้ยจ่ายทยอยลดลงมากกว่าคาด และอัตราภาษีจ่ายลดลงจากนโยบายภาครัฐทำให้บริษัทสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น