นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยแนวโน้มการท่องเที่ยวในปีนี้จะเติบโตตามคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็น 37 ล้านคน จากปีก่อน 35.4 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยวเติบโต 10%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ามีการเติบโตทั้งส่วนรายได้ส่วนห้องพักและรายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม โดยประมาณการรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) (ไม่รวมกลุ่มฮ็อป อินน์) ของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 4% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มค่าห้องพัก และคาดว่าอัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) จะสูงขึ้นเป็น 82% จากปีก่อน 81% และหากไม่รวมกลุ่มฮ็อป อินน์ จะเติบโตเป็นราว 84%
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในไทย 97% และในฟิลิปปินส์ 3% ซึ่งมีสัดส่วนจากลูกค้าไทยมากที่สุดที่ 16% และรองลงมาคือลูกค้าจีน 14%
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ 3,000 ล้านบาทสำหรับเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง แบ่งเป็นในไทย 6 แห่ง ซึ่งจะดำเนินการภายใต้แบรนด์"ฮ็อป อินน์"4 แห่ง และแบรนด์อื่นในเครือก 2 แห่งในกรุงเทพฯ คือ โรงแรมโนโวเทล และโรงแรมไอบิซ สไตล์ สุขุมวิท 4 รวมทั้งจะเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์"ฮ็อป อินน์"ในฟิลิปปินส์ 3 แห่ง ส่งผลให้สิ้นปี 61 บริษัทจะเป็นเจ้าของโรงแรมทั้งหมด 61 แห่ง และมีห้องพักทั้งหมด 8,485 ห้อง
ประกอบกับ บริษัทใช้เงินลงทุนในโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในปี 62-63 อาทิ โรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพ สุขุมวิท 24 และ โรงแรม ไอบิส สุขุมวิท 24 ที่จะเปิดให้บริการในปี 62
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินโครงการปรับปรุงห้องพักของโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสที่ 2/61 ถึง 3/61 ซึ่งเป็นส่วนหนุ่งของกลยุทธ์การเพิ่มผลตอบแทนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจโดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปี 60
นางสาวกันยะรัตน์ ยังเปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนธุรกิจโรงแรมในเวียดนาม ซึ่งมองว่ามีโอกาสความเป็นไปได้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจตลาด แต่ทั้งนี้เบื้องต้นยังไม่ได้อยู่ในแผน 5 ปีของบริษัท (ปี 59-63) ขณะที่ยอมรับว่าสนใจร่วมมือกับ บมจ.ปตท.(PTT) เพื่อตั้งโรงแรมในสถานีบริการน้ำมัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
"เราเป็นหนึ่งในโรงแรมที่สนใจเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมัน ปตท. ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่มองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถช่วยให้บริษัทเติบโตได้" นส.กันยะรัตน์ กล่าว