TLUXE เล็งปรับโครงสร้างสอดคล้องวิสัยทัศน์ใหม่,คาดสรุปตั้ง Infra Fund ในญี่ปุ่นลงทุนธุรกิจพลังงานในเร็วๆนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 5, 2018 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่พร้อมมุ่งสร้างอนาคตด้วยธุรกิจใหม่สู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางและกลยุทธ์การขยายโอกาสทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พร้อมยังมีแผนการศึกษาช่องทางการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินด้านการลงทุนในโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโครงการพลังงานลมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเป็นลักษณะการออก Infrastructure Fund ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้ และเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีศักยภาพการลงทุนเพิ่มมากขึ้น

สำหรับโอกาสการขยายการลงทุนในญี่ปุ่นนั้น จะดำเนินควบคู่ไปกับแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่บริษัทฯ มีแผนจะดำเนินการเปิดอีก 32 โครงการภายในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ รวมทั้งสิ้น 56 โครงการ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ รายใหญ่ที่สุด ในเมืองเบปปุ จ.โออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนแผนการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มอีกจำนวน 20 ยูนิต จากปัจจุบันมีการลงทุนแล้ว 7 ยูนิต ส่งผลให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งสิ้น 27 ยูนิต

ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ เพิ่มไลน์การผลิตที่โรงงานจังหวัดสงขลา เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น ให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้กำลังการผลิตแตะที่ระดับ 80% ของกำลังผลิตรวม ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีความต้องการสินค้าเพิ่มสูงขึ้น โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก

นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำในการสนับสนุนด้านการลงทุนโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการที่ลงทุนนั้น ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่สร้างผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยในช่วงปี 60 บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้สินเชื่อจำนวน 2,205 ล้านเยน หรือ 640 ล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) จำนวน 8 โครงการ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้สินเชื่อ 450 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy)

สำหรับผลการดำเนินงานในงวดปี 60 ที่ปรับตัวลดลงนั้น ส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงตามมาตรฐานการบัญชี โดยใช้การประมาณการเป็นหลัก ซึ่งยังไม่สะท้อนการดำเนินงานที่แท้จริง รวมทั้งการตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าของเครื่องจักร ที่ไม่ได้ใช้งานกว่า 5 ปี

ขณะที่ศักยภาพการทำงาน และมูลค่าของเครื่องจักรไม่ได้ลดลง เพียงแต่ไลน์การผลิตไม่ตรงกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโครงการพลังงานลมในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้มีต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ