นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า ในปี 61 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 12,000 ล้านบาท สำหรับ 3 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ โรงไฟฟ้า "ไซยะบุรี" และ "น้ำเทิน 1" สปป.ลาว และโรงไฟฟ้า"ซานบัวนาเวนทูรา"ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 62 และ 65
ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวยังไม่นับรวมโครงการใหม่ที่จะเข้าไปลงทุนและโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้า "ปากแบง" สปป.ลาว โรงไฟฟ้า "สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)" ประเทศอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้า "กวางจิ" ประเทศเวียดนาม
บริษัทยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า โดยขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดและภายใต้งบประมาณที่วางไว้, การแสวงหาโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และการพัฒนาโครงการ Greenfield ทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และการขยายการลงทุนในโครงการประเภทพลังงานหมุนเวียน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 30% ภายในปี 69 รวมทั้งการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ นายจักษ์กริช กล่าวว่า บริษัทจะต่อยอดธุรกิจในต่างประเทศที่มีฐานอยู่แล้ว ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดหลัก รวมทั้ง สปป.ลาว และอินโดนีเซีย รวมทั้งแสวงหาโอกาสขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะโครงการพลังงานหมุนเวียน
ปัจจุบัน EGCO มีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วทั้งในและต่างประเทศรวม 16 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้น 876 เมกะวัตต์ หรือ 20.56% ของกำลังการผลิตทั้งหมด