นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีเอ็มโอ (CMO) เปิดเผยว่า ในปี 61 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มบริษัทที่ 1,400 ล้านบาท โดยการเติบโตของธุรกิจจะมาจากงานอีเว้นท์ทุกรูปแบบ, งานคอนเสิร์ต ตลอดจนธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 2,000 ล้านบาทในปี 64 แบ่งเป็นอีเว้นท์ 70% และธุรกิจใหม่ 30% ทั้งนี้ บริษัทฯ มีงานอีเว้นท์ที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ตลอดทั้งปีนี้ 620 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้แน่นอน
ทั้งนี้ ทิศทางการเติบโตของ CMO มีแนวโน้มที่ดี โดยบริษัทฯ ได้รับการจัดงานอย่างต่อเนื่องในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 5 กลุ่ม อาทิ 1.กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 2.กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ 3.กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน 4.กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการสื่อสาร และ 5.กลุ่มธุรกิจบริษัทไทยที่ขยายงานไปสู่ต่างประเทศ เป็นต้น
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งได้รับงานระดับใหญ่ ครอบคลุมงานทุกรูปแบบ อาทิเช่น งาน "LINE TV: NEXPLOSION 2018", งานเปิดตัวรถฟอร์ด "เรนเจอร์ แร็พเตอร์" (Ranger Raptor) ครั้งแรกของโลก ,งานเปิดตัวรถยนต์ All New Suzuki Swift 2018 ,การแข่งขันเกมส์ออนไลน์ "Lineage2 Revolution Tournament Thailand" , งาน Adfest 2018 ,ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดโซนใหม่ MEGA FoodWalk, Movie On The Beach 2018 ตลอดจนได้จัดงานในอาเซียนกับงานเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลคูโบต้า รุ่น ZT ที่กัมพูชา เป็นต้น
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี บริษัทฯ จะดำเนินงานตามแผนธุรกิจ โดยแบ่งเป็น 3 กลยุทธ์หลักๆ ได้แก่ 1. รักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์ เอเจนซี่ อันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งในแง่ของการเป็นผู้บริหารการจัดงาน และในกลุ่มของงานด้านบริการระบบภาพ แสงและเสียง แบบครบวงจร ตลอดจนนำเทคนิคที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจ
กลยุทธ์ที่ 2 ดำเนินงานพัฒนาธุรกิจที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) เพื่อสร้างรายได้ประจำให้เกิดการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ 2 ธุรกิจ ด้วยกัน ได้แก่ "หิมพานต์ อวตาร" การแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย ผสานเทคโนโลยีทันสมัย ในรูปแบบ 4 มิติ และธุรกิจสวนสนุก "อิเมจิเนีย" (Imaginia)
ในส่วนของธุรกิจสวนสนุก "อิเมจิเนีย" บริษัทฯ ตั้งเป้าจะขยายแฟรนไชส์สวนสนุก เพิ่มประเทศละ 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์สวนสนุกแล้วที่ประเทศจีน และเตรียมเปิดอีกสาขาที่เวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 61 นอกจากนี้ บริษัทยังต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลาย เริ่มพัฒนาธุรกิจที่ไม่ใช่แค่การจัดอีเว้นท์ เช่น การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ในงานอีเว้นท์ ,การให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ถาวร และทำ Mapping ที่ ศูนย์การค้า รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ Bangkok Creative Playground ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ CMO โดยเปิดบริการให้เช่าสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ,ละคร ตลอดจนหนังโฆษณา ซึ่งที่ผ่านมาก็สร้างรายได้ประมาณ 9 ล้านบาท
กลยุทธ์ ที่ 3 มุ่งบริหารจัดงานอีเว้นท์รูปแบบ International ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนหาพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายงานในต่างประเทศ แต่เลือกประเทศมากขึ้น โดยพิจารณาจากเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก