นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากมูลค่างานคงค้างในมือ (Backlog) ราว 236 ล้านบาท ซึ่งรวมงานล่าสุดที่บริษัทได้รับงานต่อเรือกำจัดผักตบชวา จำนวน 4 ลำ มูลค่าราว 32 ล้านบาท ขณะเดียวกันปีนี้จะให้น้ำหนักงานต่อเรือหน่วยงานราชการและงานด้านโครงสร้างเหล็กมากขึ้น ซึ่งเป็นการรับงานรับเหมาช่วงจากบริษัทรับเหมารายใหญ่ เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้จากงานโครงสร้างพื้นฐานโครงการขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีประสบการณ์รับงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิเฟสแรก ซึ่งในปัจจุบันได้รับงานก่อสร้างด่านศุลกากร อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และงานติดตั้งรั้วมอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในงานโครงสร้างเหล็กที่สนามบินสุวรรณภูมิในเฟสสองที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในขณะนี้
สำหรับธุรกิจหลักงานต่อเรือ และซ่อมเรือ ที่ดำเนินมา 37 ปี มีฐานลูกค้าทั้งบริษัทเอกชนและราชการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในปี 60 มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น และคาดว่าปี 61 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยโครงสร้างรายได้ของบริษัทในปีนี้ มาจากการซ่อมเรือ ประมาณ 45% รายได้จากการต่อเรือ ประมาณ 50% และที่เหลือรายได้จากงานโครงสร้างเหล็ก นอกจากนี้ยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มอู่ต่อเรือจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้บริษัทมีขีดความสามารถในการรับเรือเข้าซ่อมได้เพิ่มขึ้น
"ปี 61 ASIMAR มั่นใจว่าจะมีผลงานที่ดีทั้งรายได้และกำไร โดยตั้งเป้ารายได้โต 10-15% ซึ่งที่ผ่านมากำไรปี 60 โตจากปี 59 เกือบ 70% เป็นการตอกย้ำว่าทีมงานผู้บริหารและพนักงานได้ปรับปรุงกลยุทธ์ ทิศทางการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าในปี 61 จะเป็นปีที่ดีต่อเนื่องจากงาน 3 ส่วนหลัก คือ ต่อเรือ ซ่อมเรือ และงานโครงสร้างเหล็ก"นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการในปี 60 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 81.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.64% เมื่อเทียบกับปี 59 และมีรายได้รวม 705.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.75% เมื่อเทียบกับปี 59 โดยบริษัทมีรายได้จากงานซ่อมเรือ 401.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.94% จากงานซ่อมเรือในประเทศที่มีมูลค่าซ่อมสูงจำนวนหลายลำและรับงานซ่อมเรือต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีรายได้จากอู่ต่อเรือสาขาสุราษฎร์ธานี เข้ามาเพิ่มเติม ส่วนรายได้จากงานต่อเรือ อยู่ที่ 265.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.81% โดยมีงานโครงการต่อเรือแล้วเสร็จในปี 60 จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย เรือลากจูงกำลังฉุดไม่น้อยกว่า 50 เมตริกตัน เรือกำจัดผักตบชวา และโครงการต่อเรือลำเลียง
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น 0.20 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 และขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 มีนาคม 2561