นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ (A) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 61 เติบโต 30% หรืออยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 1.11 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายปีนี้จะแบ่งเป็นแนวราบ 8.36 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 6 พันล้านบาท
พร้อมวางแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7.92 พันล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยบริษัชมีที่ดินรองรับการพัฒนาแนวราบทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ส่วนคอนโดมิเนียมมีแผนจะเปิดตัวปลายไตรมาส 2/61 บริษัทจะซื้อที่ดินในช่วง 1-2 เดือนนี้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ในทำเลใกล้ CBD และจะนำมาพัฒนาโดยใช้แบรนด์ "A Space" ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาท/ยูนิต
ขณะที่บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินใหม่รวม 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการแนวราบในปีต่อไป
ส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการแนวราบเป็นหลัก ซึ่งคาดว่ายอดขายของโครงการแนวราบ 8.36 พันล้านบาท จะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ภายในปีนี้ราว 5 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีนโยบายพัฒนาโครงการแนวราบในรูปแบบสร้างเสร็จก่อนขายเพื่อให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันที
พร้อมกันนั้นจะมีการทยอยรับรู้มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ราว 1 พันล้านบาทจากโครงการแนวราบ จาก Backlog ทั้งหมดที่มีอยู่ 3.09 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือจะเป็น Backlog ของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปในที่ผ่านมาซึ่งจะเริ่มรับรู้ในปี 62
นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเน้นขายโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในสต็อกกว่า 2 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าขายออกไปให้ได้มากกว่า 50% เพื่อสร้างรายได้กลับเข้ามา พร้อมกับการนำบางโครงการไปเสนอขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติผ่านเอเจนท์ ซึ่งปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ การขายโครงการให้กับลูกค้าต่างชาติเป็นการกระจายความเสี่ยงในแง่การรับรู้รายได้ของบริษัท เพราะลูกค้าชาวต่างชาติมีกำลังซื้อสูง ซึ่งปัจจุบันการโอนของลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยกับบริษัทยังเผชิญปัญหาในด้านอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่ในระดับสูงที่ 30% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 80-90% เป็นกลุ่มที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท ขณะที่สถาบันการเงินต่างยังมีความเข้มงวดในการให้สินเชื่อกับลูกค้ารายย่อยที่มีรายได้ไม่สูง
แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าสถาการณ์การอนุมัติสินเชื่อจะมีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่สถาบันการเงินต่างๆ มีการจัดการเรื่องคุณภาพหนี้ของลูกค้ารายย่อยได้เป็นอย่างดีแล้ว และเริ่มกลับมาปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากการแข่งขันของสินเชื่อบ้านในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันด้านดอกเบี้ย
นายวิศิษฎ์ มองทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 61 ว่า ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าขยายตัวได้ราว 10% จหลังจากเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี การลงทุนต่างๆ มีมากขึ้น รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น ทำให้ความมั่นใจกลับมา แลพส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาดีขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะส่งผลให้เกิดการกระจายตัวของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดรอบๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยและต่างชาติต้องจับตามอง และจะเห็นว่าเทรนด์การพัฒนาที่อยู่ที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีขนาดห้องเล็กลงมีมากขึ้น เพราะราคาที่ดินที่แพงขึ้น ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการที่จะต้องใช้พื้นที่ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดและทำราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้
"การใช้ชีวิตที่ดีเราต้องสร้างปัจจัยพื้นฐานหลายด้าน ซึ่งเป็นจุดแข็งของอารียามาตลอด 18 เราเชื่อเรื่อง Inside – Out สำหรับที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่ Function ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องการ Emotional Engagement ที่จะออกแบบชีวิตของแต่ละคนในบ้าน โดยเฉพาะในสังคมที่วุ่นวาย แข่งขัน และรีบเร่งอย่างทุกวันนี้ ดังนั้น เราจะต้องดูแลทุกองค์ประกอบของงานให้เข้าใจผู้บริโภคเพียงพอ เพื่อการออกแบบบ้านและออกแบบชีวิตที่สามารถสื่อสาร และปลุกจินตนาการการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิ่งที่อารียาเรียกว่าสุนทรียะของใช้ชีวิต"นายวิศิษฎ์ กล่าว