นางวนิดา บุญภิรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) คาดอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) ในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 21% หลังรับรู้รายได้ผลตอบแทนจากการลงทุนโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟเข้าสู่ระบบในช่วงปี 60 เต็มปี คือ โรงไฟฟ้า IRPC-CP เฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 240 เมกะวัตต์ และ โครงการโรงไฟฟ้าบางปะอิน (BIC2) ขนาดกำลังการผลิต 117 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่น 20 เมกะวัตต์
บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ 6 พันล้านบาท ซึ่งจะเน้นลงทุนในจังหวัดระยอง ได้แก่ Central Utility Plant 4 กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุนประมาณ 2 พันล้านบาท และ โรงไฟฟ้าขยะครบวงจร (แปลงเป็นเชื้อเพลิงประเภท RDF) โดยการลงทุนจะมาจากเงินสดของบริษัทที่จะมีเข้ามา 4.5 พันล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นกระแสเงินสดในบริษัท 4 พันล้านบาท ผลตอบแทนจากการลงทุนที่จะเข้ามาปีละ 400-500 ล้านบาท และการกู้จากสถาบันการเงินอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทอยู่ที่ 0.29 เท่า ซึ่งบริษัทมีนโยบายจะควบคุมไว้ไม่ให้เกิน 1 เท่า
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว โดยเบื้องต้นจากผลการศึกษาคาดว่าจะเริ่มลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซที่เมียนมาภายในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะตั้งอยู่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรม เบื้องต้นจะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิตแห่งละประมาณ 100 เมกะวัตต์ ส่วนการลงทุนที่ สปป.ลาวคาดจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ