นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ (TRU) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 โตไม่ต่ำกว่า 15% ด้วยกลยุทธ์เน้นการเติบโตของรายได้การขายรถยนต์ตรวจการณ์ (TR Transformer) และเปิดตัวรถมินิบัสใหม่
ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มผลิตและจำหน่ายรถมินิบัสใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ค.61 เป็นต้นไป ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) ซึ่งทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากร โดยช่วงแรกตั้งเป้าหมายการขายทั้งในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากเห็นความต้องการชัดเจนหลังจากรัฐบาลออกประกาศให้เปลี่ยนรถตู้โดยสารประจำทางเป็นรถมินิบัส ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณรถตู้โดยสารฯที่ต้องเปลี่ยนในช่วงปี 60-69 มากถึง 1.7 หมื่นคัน อีกทั้งยังมีความต้องการจากธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็ก จึงเป็นโอกาสอย่างมากสำหรับรถมินิบัสในประเทศ
ขณะเดียวกันบริษัทเห็นโอกาสในการส่งออกรถมินิบัสไปยังต่างประเทศ โดยเบื้องต้นได้เจรจากับลูกค้าในประเทศต่าง ๆ ไปบ้างแล้ว อาทิ เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเซีย ซึ่งมองว่าการส่งออกทำได้ง่ายและได้ประโยชน์ด้านภาษีจากการเป็นประชาคมอาเซียน (AEC) คาดว่าจะมีความชัดเจนในครึ่งปีหลังนี้
ส่วนการขยายตลาดรถตรวจการณ์ (TR Transformer) ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมไทย ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 300 คัน และเร่งขยายตลาดไปต่างประเทศด้วย โดยปัจจุบันมีออเดอร์แล้ว 100 คัน จะเริ่มรับรู้ในช่วงไตรมาส 2/61 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการขายรถให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบตัวถังที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป และสามารถติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ หรือดัดแปลงให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็นรถบรรเทาสาธารณภัย, เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD), บรรทุกสุนัขทหาร (K9) เป็นต้น
ขณะที่บริษัทคาดว่าในปี 62 สัดส่วนรายได้จากรถยนต์เฉพาะทาง คือ รถมินิบัสและรถยนต์ตรวจการณ์ จะเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันที่ 11% โดยบริษัทจะเร่งให้มียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่ให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง นายสมพงษ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปี 61 ราว 150-200 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับปรุงอุปกรณ์ ซึ่งบริษัทมีอัตราการผลิตที่ 55% มองว่ายังไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม อีกทั้งปัจจุบันบริษัทมีโรงงานว่าง 1 แห่งที่นิคมฯ อมตะเหมราช เตรียมพร้อมสำหรับโครงการใหม่ในอนาคต โดยมีกระแสเงินสดเพียงพอ และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.13 เท่า
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งงบลงทุน 20 ล้านบาทสำหรับแผนการจัดตั้งโรงงานเป็นเขตฟรีโซนเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีศุลกากร โดยจะเป็นโรงงานเพื่อผลิตตัวถังและรับจ้างประกอบรถยนต์เพื่อการส่งออกและขายในประเทศ โดยมีแผนจะผลิตหัว Cabin รถขุดตัก และผลิตรถมินิบัส ตลอดจนรับจ้างประกอบรถประเภทต่าง ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่จากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน พ.ย.61 นี้
"มองแนวโน้มภาพรวมไตรมาสที่ 1/61 ยังไม่ดีมาก ยังทรงตัว แต่คาดว่าหลังจากนี้จะดีขึ้นเนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยช่วง high season จะอยู่ในช่วงไตรมาส 4/61 เนื่องจากมีการจัดงาน motor expo" นายสมพงษ์ กล่าว