(เพิ่มเติม) JMART หดเป้ากำไรปี 61 เหลือแค่ทรงตัวรับผล บ.ย่อยตั้งสำรองเพิ่ม,"เจ ฟินเทค"เลื่อนเข้าตลาดหุ้นไปปี 62

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 7, 2018 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ากำไรปี 61 ลงเป็นทรงตัวจากปีก่อนที่ทำได้ระดับ 490 ล้านบาท จากเดิมคาดเติบโตราว 30% เนื่องจาก บริษัท เจ ฟินเทค (J-fintech) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ JMART ถือหุ้น 95.6% ต้องตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (IFRS9) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนใช้จริงในปี 62

อย่างไรก็ตาม การตั้งสำรองดังกล่าวของ เจ ฟินเทค จะมีผลกระทบค่อนข้างมากในไตรมาส 1-2/61 จากนั้นสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และจะกลับสู่ระดับปกติได้ในปี 62 รวมทั้งคาดว่าส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว

ขณะเดียวกัน บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ที่เป็นบริษัทย่อยที่ JMART ถือหุ้น 24.9% ยังจะมีการตั้งสำรองหนี้สูญอีกราว 300-400 ล้านบาท จากปัจจุบันมีบัญชีที่ไม่ผ่านศูนย์อนุมัติสินเชื่อราว 4 หมื่นบัญชี คิดเป็นมูลค่า 300-400 ล้านบาท หรือคิดเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ราว 21% โดยในปีนี้จะมีการยึดทรัพย์สินเพื่อแปลงเป็นเงินสด รวมถึงปิดบัญชีดังกล่าวในไตรมาส 2/61 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีกลางปี 61 หรืออย่างช้าภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าหลังจากนั้นจะเห็นจุด Turn around ได้

นายอดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของ JMART ในปีนี้จะมุ่งสั่งสร้างการเติบโตที่ดี และเป็นผู้นำธุรกิจฟินเทคที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เป็นบริษัทที่สามารถเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ มีจุดแข็งจากการผนึกกำลัง Synergy ของบริษัทในเครือตามกลยุทธ์ " THe Power of Synergy Chapter III"

นอกจากนี้ จะติดตาม บริษัท เจเวนเจอร์ส จำกัด (JVC) บริษัทย่อยที่เข้ามาระดมทุนในรูปแบบเปิดเสนอขายดิจิทัลโทเคนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ICO) ในชื่อ JFin Coin ที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาด TDEX ไม่เกินวันที่ 2 เม.ย.

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท มั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ โดยไตรมาส 1/61 เริ่มมีสินค้ารุ่นใหม่ที่เป็น Flagship ทยอยออกมากระตุ้นตลาด และคาดว่าสิ้นปีนี้มูลค่าตลาดรวมโทรศัพม์เคลื่อนที่จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการรุกตลาดและขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

นอกจาก เจ โมบาย เตรียมออกกลยุทธ์ทางการตลาดและโปรโมชั่นมากระตุ้นการซื้อสินค้าและเพิ่มยอดขาย วางงบลงทุนรวมในปีนี้ไว้จำนวน 130 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปี 60 เพื่อผลักดันการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมให้มากกว่า 10% ผ่านการบริหารแบรนด์หลักของริษัท รวมทั้งการขยายสาขาใหม่ในปีนี้ที่ตั้งเป้าสิ้นปีมีสาขา 300 สาขาทั่วประเทศ พร้อมรุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น

นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ ฟินเทค กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล J Money เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปัจจุบันมียอดลูกหนี้สินเชื่อที่ 3,258 ล้านบาท ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงเดินหน้า แต่คาดว่าแผนการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และยื่นคำขอเข้าตลาดหลักทรัพย์ อาจเลื่อนออกไปเป็นปี 62 จากเดิมปี 61 เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมทุกด้านเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุน 4,500 ล้านบาท เพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่องอีก 52,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้พอร์ตบริหารหนี้สิ้นปี 61 ทะลุ 170,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 60 ที่บริษัทซื้อหนี้เข้ามาบริหารมากกว่า 120,000 ล้านบาทแล้ว และตั้งเป้าผลประกอบการในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% อีกทั้งมีแผนรุกขยายเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามในปลายปีนี้ต่อจากกัมพูชา

ด้านนายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) เปิดเผยว่า ในปีนี้ผลงานน่าจะเทิร์นอะราวด์ โดยเตรียมเปิดศูนย์มือถือใหม่ IT JUNCTION เพิ่มอีก 8 สาขา จากสิ้นปี 60 มี 52 สาขา พร้อมทั้งเตรียมรุกเข้าไปในธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง และเตรียมศึกษาโครงการต่อเนื่องเพื่อสร้าง Backlog ให้เติบโตในระยะยาว รวมทั้งตั้งเป้าขยายสาขาคาซ่า ลาแปง และ Rabb Coffee รวม 250 สาขาภายใน 3 ปีนี้ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของ J มีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อน

ส่วนนายกิตติพงษ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 35% และวางงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท จากกลยุทธ์ขยายสินค้าและบริการ พร้อมทั้งเปิดตัว Singer Franchise ตั้งเป้าขยายสาขาเป็น 350 สาขาภายในปี 63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ