(เพิ่มเติม) KTIS คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปี 60 ตามปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่ม เดินหน้าเพิ่มรายได้ธุรกิจนอกเหนือน้ำตาล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 8, 2018 12:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) คาดกำไรในปี 61 จะดีกว่าในปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 645.49 ล้านบาท เป็นการเติบโตตามปริมาณอ้อยเข้าหีบได้เพิ่มขึ้นเป็น 9.7-9.8 ล้านตัน จากปีที่แล้วหีบอ้อยได้ 8.7 ล้านตัน ขณะที่บริษัทตั้งเป้าในปี 63 จะมีสัดส่วนรายได้ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำตาลปรับขึ้นมาประมาณ 40% จาก 29% โดยจะเน้นเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง นอกจากนี้บริษัทคาดจะเริ่มลงทุนโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ร่วมกับบมจโกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ในปี 62 จะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTIS กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 645.49 ล้านบาท ตามปริมาณการหีบห้อยของบริษัทฯปีนี้ที่คาดว่าจะขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.7-9.8 ล้านตัน จากปีก่อน 8.7 ล้านตัน ตามที่คาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบของอุตสาหกรรมน้ำตาลทั้งระบบในปีนี้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 115 ล้านตัน จากปีก่อน 94 ล้านตัน ขณะที่คาดว่าราคาน้ำตาลเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ในระดับ 13-15 เซนต์ต่อปอนด์ ใกล้เคียงปัจจุบันที่ 13-14 เซนต์ต่อปอนด์

ภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำตาลในปีนี้ได้รับปัจจัยบวกเกี่ยวจากผลผลิตของบราซิลตอนใต้ที่ปรับเปลี่ยนนำไปผลิตเป็นเอทานอลมากขึ้น เพราะได้ราคาดีขึ้น ขณะที่ราคาน้ำตาลยังอยู่ในระดับต่ำ จึงช่วยลดปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกลงหนุนราคาน้ำตาลให้ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการมีฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้บางประเทศเก็บเกี่ยวอ้อยได้ช้าลงหรือคุณภาพที่ไม่ดี ทำให้ปริมาณอ้อยไม่ล้นตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำตาลให้มีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น 40% ภายในปี 63 จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 29% แต่ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำตาลมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24% ขณะที่ธุรกิจน้ำตาลมีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 16-17% ซึ่งบริษัทพยายามจะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอื่นๆ เพื่อทำให้กำไรบริษัทดีขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจเยื่อกระดาษ เอทานอล และธุรกิจไฟฟ้า เป็นต้น

สำหรับโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง KTIS กับ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) โดยมีสัดส่วนถือหุ้นรายละ 50% มูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 62 และใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นแหล่งศูนย์กลางวัตถุดิบหลัก คือ อ้อย และผลิตภัณฑ์ตั้งต้นอย่าง เอทานอล พลังงานไฟฟ้า ไอน้ำเชื้อเพลิงชีวมวล ที่สามารถส่งเข้าสู่โรงงาน โดยที่ผ่านมาได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูลหานักลงทุนที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้สนใจเข้าลงทุนเกินกว่าความคาดหมาย


แท็ก เนชั่น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ