โบรกเกอร์ต่างแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป (MODERN) จากแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้นของผลการดำเนินงานหลังธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์บ้านที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น ขณะที่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงานยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอาคารสำนักงาน และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเริ่มขยายตัวขึ้นหลังจากชะลอตัวไปในช่วงปลายปีก่อน
นอกจากนี้ MODERN ยังมีปัจจัยหนุนในอนาคตจากการที่ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มเฮลท์แอนด์แคร์ (MHC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางโรคมะเร็ง เป็นการกระจายตัวไปสู่ธฺรกิจใหม่ที่จะหนุนการเติบโตของภาพรวมบริษัทได้ในระยะยาว
อีกทั้ง MODERN ยังเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในแง่ของการจ่ายเงินปันผลสูงและจ่ายเงินปันผลมาอย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้น MODERN ช่วงบ่ายอยู่ที่ 5.35 บาท ทรงตัวจากวันก่อน ขณะที่ SET +0.12% เมื่อเวลา 15.48 น.
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ดีบีเอส ซื้อ 6.80 ฟินันเซีย ซื้อ 6.80 ทิสโก้ ซื้อ 6.40
น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) มองแนวโน้มผลการดำเนินงาน MODERN จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและเริ่มฟื้นตัว ทั้งในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ที่พักอาศัยและกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่มีแนวโน้มยอดขายดีขึ้นต่อเนื่อง
และในส่วนของ MHC ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นในปี 61 รวมถึงขยายไปยังธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาหาผู้รับเหมาก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่ง MHC ถือหุ้น 40% กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือหุ้น 30% และที่เหลือ 30% ถือหุ้นโดยพันธมิตรของกลุ่ม MODERN และกลุ่มแพทย์
บริษัทคาดว่าโครงการนี้จะใช้เวลาคืนทุน 4-5 ปี โดยในช่วง 1-2 ปีแรกจะขาดทุนก่อน แล้วเริ่มทำกำไรอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งจะหนุนการเติบโตของ MODERN ได้ไนระยะยาว เพราะ MODERN ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน MHC สัดส่วน 38%
ขณะที่ MODERN เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยประเมินอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปี 61 ที่ 4.8%
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ คาดว่าจะเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์บ้านและสำนักงานในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์บ้านที่จะทยอยส่งมอบในปีนี้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์สำนักงานยังมีแนวโน้มที่ดี เพราะบริษัทมีลูกค้าประจำ ประกอบกับ ภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการสั่งซื้อในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพ ภายใต้บริษัทย่อย MHC คาดว่าจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อนที่มีการชะลอตัวในครึ่งปีหลัง โดยปัจจุบันเริ่มเห็นการเปิดประมูลงานใหม่ ๆ มากขึ้น ขณะที่มี Backlog ในปัจจุบัน 140 ล้านบาทที่จะรับรู้ได้ภายในไตรมาส 2/61 อีกทั้งคาดว่าบริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานอีกกว่า 1 พันล้านบาท พร้อมขยายเข้าไปยังธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านมะเร็ง
ทั้งนี้ ประเมินกำไรสุทธิของบริษัทในปี 61 อยู่ที่ 218 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 215 ล้านบาท แต่ในความน่าสนใจของ MODERN อีกแง่มาจากการเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในระดับสูงต่อเนื่อง ด้วยอัตราการจ่ายเงินปันผล Payout ratio กว่า 100% คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 5.6%
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจากตลาดออฟฟิศที่ฟื้นตัวขึ้นตามการขยายตัวของโครงการมิกซ์ยูส และการกลับมาฟี้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย หนุนยอดขายเฟอร์นิเจอร์ที่จะกลับมาเติบโตขึ้น อีกทั้งยังมีการรับรู้กำไรจาก MHC ที่กลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นหลังจากที่ชะลอไปเมื่อปลายปีก่อน โดยบริษัทและ MHC ยังมี Backlog รวมกันในระดับที่สูงที่ 2.64 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้ไนปีนี้
โดยภาพรวมของกำไรในปี 61 คาดว่าจะอยู่ที่ 284 ล้านบาท เติบโต 32% จากปีก่อน ขณะที่ความน่าสนใจของ MODERN นอกเหนือจากการฟื้นตัวของธุรกิจแล้ว ยังโดดเด่นในแง่ของการจ่ายปันผลที่สูง คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ต่อปี และมี Valuation ที่ไม่แพง โดยมี P/E ที่ 14 เท่า น้อยกว่าค่าเฉลี่ยที่ 18 เท่า