นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตราว 30% มาอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท สูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หลังมุ่งเน้นการทำตลาดในจีนและฮ่องกงร่วมกับบริษัทย่อย คือ บริษัท Universal Worldwide Transportation Limited (UWT) โดยบริษัทคาดจะมีสัดส่วนรายได้จากจีนและฮ่องกงเป็นมากกว่า 40% ในอีก 1 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากจีนอยู่ที่ 28% และฮ่องกงอยู่ที่ 12% ขณะเดียวกันก็จะขยายงานโลจิสติกส์ร่วมกับเครือข่าย (Synergize in Group Network) อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จาก UWT เข้ามาเป็นปีแรกตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/61 หลังได้เข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา และยังรับรู้รายได้จากการดำเนินงานต่อเนื่องจาก Sun Express Logistics Pte. Ltd. (SEL) ที่ได้เข้าซื้อกิจการตั้งแต่ปี 59 โดยปีนี้คาดจะมีสัดส่วนรายได้มาจาก WICE 60% , SEL 20% และ UWT 20%
สำหรับความคืบหน้าการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการธุรกิจที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2-3 ราย ซึ่งเป็นธุรกิจในมาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และจีน ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา และยังคงคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ราย โดยวางงบลงทุนเพื่อซื้อกิจการดังกล่าวไว้ราว 200-300 ล้านบาท/ดีล
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหม่จำนวน 2-3 ราย เพื่อเข้ารับงานบริหารจัดการพื้นที่คลังสินค้า ส่วนงานด้านขนส่งทางอากาศ (Air Freight) การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) และการขนส่งทางรถในประเทศ มีแนวโน้มที่ดี โดยปริมาณงานทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 เติบโตดีกว่าไตรมาส 1/60 เฉลี่ย 20-30%
"บริษัทยังเดินหน้าสร้างแบรนด์ WICE ในธุรกิจโลจิสติกส์ระดับนานาชาติ ด้วยการขยายโครงข่ายพันธมิตรในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดธุรกิจทุกประเภทของบริษัทให้ครอบคลุมเส้นทางการขนส่ง รองรับความต้องการของลูกค้าในทุก ๆ ด้าน และยกระดับแบรนด์ WICE สู่การเป็นผู้นำงานบริการโลจิสติกส์แห่งเอเชีย"นายชูเดช กล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 60 บริษัทมีรายได้รวม 1,402.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.40% จากปี 59 และมีกำไรสุทธิ 89.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.22% จากปี 59 โดยในงวดไตรมาส 4/60 บริษัทมีรายได้รวม 343.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11.97 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.76 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทมีค่าใช้จ่ายจากการเข้าซื้อกิจการ UWT จำนวน 9.17 ล้านบาท และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทที่แข็งค่าและผันผวนอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น จำนวน 5.13 ล้านบาท อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว (One Time Expense) อีกทั้งบริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับการผันผวนของค่าเงินในอนาคตไว้เรียบร้อยแล้ว