นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 ราว 2,450 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อน และกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันมีงานรอรับรู้รายได้ (backlog) ราว 6-7 พันล้านบาท
บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานมูลค่าราว 4 พันล้านบาท โดยคาดหวังที่จะได้งาน 50% ของมูลค่าทั้งหมด โดยบริษัทจะเน้นงานเคเบิลใต้น้ำเป็นหลัก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้าประมูลในช่วงเดือน ส.ค.61
นายสมบัติ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจจำหน่ายสายสัญญาณในปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังจากภาครัฐนำเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรและประเทศก้าวสู่ยุค Thailand 4.0 และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ขณะที่บริษัทยังมีงานคงค้างที่เลื่อนส่งมอบให้กับโครงการรัฐสภาใหม่ และโครงการพัฒนาอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่คาดว่าจะส่งมอบงานกว่า 105.1 ล้านบาทภายในปีนี้
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 23% และทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาในระดับ 6.70% จากเดิมอยู่ในระดับ 2.6% เป็นผลจากการต่อรองราคาต้นทุนให้ลดลงได้ราว 2-5%
ด้านธุรกิจโทรคมนาคมในปีนี้ คาดว่ามีแนวโน้มรายได้สูงขึ้นเช่นกัน จากปริมาณการใช้งานของลูกค้าเช่าวงจรและเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ที่จะรับรู้รายได้จากการให้บริการราว 95% ของมูลค่างานเข้ามาตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งมีการเพิ่มปริมาณการใช้งาน Utilization ของโครงข่ายต่าง ๆ ที่ให้บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเร่งหาลูกค้าที่มีสาขาทั่วประเทศตามพื้นที่ที่สามารถให้บริการได้และมีโครงข่ายพาดผ่านให้เข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้น
นอกจากนั่น ยังคาดว่างานรับเหมาติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตคาดวาจะมีเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีโครงการของภาครัฐอีกหลายโครงการที่บริษัทสามารถเข้าร่วมได้
ส่วนธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์และปรับเปลี่ยนผู้บริหารสูงสุดที่จะเข้ามาควบคุมโครงการที่เหลือราว 3,643 ล้านบาทให้สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ตามแผน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะสามารถมีกำไรทางบัญชีจากโครงการพัฒนาอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากบริษัทบันทึกบัญชีเป็นขาดทุนไปแล้ว 150 ล้านบาท
นายสมบัติ เปิดเผยอีกว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 200 ล้านบาทในปีนี้ โดยใช้ซื้อที่ดินพัฒนาศูนย์กระจายสินค้า 100 ล้านบาท หลังจากเห็นโอกาสทางธุรกิจของอุปกรณ์ส่งสัญญาณ ซึ่งบริษัทได้เปิดตลาดใหม่ PoE Switch (Pover Over Ethernet) ที่คาดว่าจะมีมูลค่าของตลาดรวมมากกว่า 8,743 ล้านบาทในปีนี้ โดยมีขนาดใหญ่กว่าตลาดสายสัญญาณ น่าจะเห็นภาพการขยายธุรกิจดังกล่าวชัดเจนขึ้นในปี 62
ส่วนงบลงทุนอีก 100 ล้านบาทจะนำไปใช้ลงทุนสร้างอาคารสำนักงาน 8 ชั้นเพื่อให้ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) เช่าใช้เพื่อรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนขอมติผู้ถือหุ้นเพื่อเตรียมออกหุ้นกู้วงเงิน 1 พันล้านบาทรองรับการลงทุนเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต