นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี 61 บริษัทวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 33,500 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 7 โครงการ และต่างจังหวัด 5 โครงการ โดยแนวทางการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปีนี้จะก้าวแกร่งครั้งใหญ่สู่ "Tomorrow is Unfolded" ตามโรดแมพการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมในปีนี้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท เติบโต 43% จากปีก่อน
สำหรับโรดแมพจะอยู่ภายใต้ 7 กุญแจสำคัญ ได้แก่ 1. การรุกสร้างแบรนด์คอนโดมิเนียม และเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ โดยบริษัทจะสร้างแบรนด์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ THE BASE "เดอะ เบส" ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่มุ่งเน้นตอบสนองชีวิตคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีความเป็นตัวของตัวเอง การออกแบบในแต่ละโครงการสะท้อนบุคลิกภาพและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในทำเลนั้น โดย"เดอะ เบส" จะอยู่ในรูปแบบใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 13,600 ล้านบาท ในทำเลสุขุมวิท 50, สะพานใหม่, ภูเก็ต, เจริญราษฎร์ และท่าพระ
รวมถึงจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Via (เวีย) อีกครั้ง หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จจากคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เวียมาแล้ว 3 โครงการในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ Via31, Via Botani และ Via49 ส่วนการสร้างแบรนด์คอนโดมิเนียมที่สำคัญในปีนี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่จำนวนถึง 4 โครงการ ที่มีดีไซน์เฉพาะตัวออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ โดยจะมีการเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
2. การรุกกว้างเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเจาะกลู่มลูกค้าใหม่ คือ เกาหลี และสร้างฐานที่แข็งแกร่งมากขึ้นในญี่ปุ่น รวมถึงการขยายฐานลูกค้าเดิมอย่างลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดออฟฟิศในต่างประเทศเพิ่มขึ้นแห่งที่ 6 ที่ฮ่องกง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและรักษาความเป็นที่หนึ่งในตลาดต่างประเทศ โดยมีการตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นถึง 40% จากปี 60 เป็น 13,000 ล้านบาท เพื่อรองรับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเอเชีย
3. สานต่อกลยุทธ์การเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ สำหรับกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย จะมีโครงการใหม่จากการลงทุนร่วมกับบีทีเอสและโตคิว กรุ๊ป อีกประมาณ 4-6 โครงการ มีมูลค่ารวมประมาณ 12,000-19,000 ล้านบาท 4. พัฒนาต่ออีก 5 คอนโดมิเนียมในหัวเมืองหลักต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต หาดใหญ่ พัทยา และหัวหินจากความสำเร็จในการรุกขยายการพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
5. การสานต่อ Digital Transformation Chapter 2 สู่การพัฒนาคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่ อาทิ การพัฒนาต่อยอดใน Siri Life Tech 6.การพัฒนานวัตกรรมในคอนโดมิเนียมที่เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในทุก ๆ ด้าน 7. การปักธง 3 ปี สู่ "Dream Place to Work" ซึ่งนำแนวคิดระดับโลก "Agile" (เอจาวล์) พลิกโฉมองค์กรรับยุคมิลเลนเนียล ฉีกกฏการทำงานแบบเดิมให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาโครงการและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ารวดเร็วขึ้นสูงสุดได้ถึง 20%
นายอุทัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายคอนโดมิเนียมในปีนี้ได้ตามเป้าหมาย โดยเตรียมเปิดการขายโครงการ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง คอนโดมิเนียมโครงการแรกของแสนสิริที่สร้างเสร็จก่อนขาย และเป็นคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริ- บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) จำนวนทั้งสิ้น 1,287 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง (The LINE Wongsawang) อยู่ภายใต้แนวคิด Selection is Everything นับเป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 12 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท และบีทีเอส ในรูปแบบ High Rise ความสูง 36 ชั้น มีจุดเด่นติด MRT วงศ์สว่าง สร้างเสร็จก่อนขาย ตกแต่งครบพร้อมอยู่ พร้อม Facility กว่า 6,000 ตารางเมตรที่มีถึง 14 ฟังก์ชันการใช้งาน ออกแบบตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้