นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1/61 จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากแบรนด์สินค้าเริ่มติดตลาดและมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น บริษัทยังคงมั่นใจแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ 5 ปี (ปี 61-65) ตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 20% อัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% โดยคาดว่าในปี 65 จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนหุ้น BEAUTY จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรม (มาร์เก็ตแคป) ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท และเป็นแบรนด์เครื่องสำอางของไทยที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วเอเชีย
และในปีนี้บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายรายได้รวมจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 4,290 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 120 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนเปิดสาขาใหม่จำนวน 80 ล้านบาท รวมทั้งใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและ Business Intelligence (BI) จำนวน 40 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นายแพทย์สุวิน กล่าวว่า ในปีนี้ BEAUTY จะมุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดต่างประเทศมีแผนเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศจีนมากขึ้น นำสินค้าเข้าจำหน่ายใน Official Online ผ่าน Cross Border อาทิ เวบไซต์ TMALL.HK ,เวบไซต์ KAOLA.COMคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในครึ่งปีแรก
อีกทั้งมีแผนขยายสาขาที่เป็น Independent shop ในต่างประเทศจำนวน 9 สาขา จากปัจจุบัน 16 สาขา กระจายอยู่ในเวียดนาม และฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งขยายจุดจำหน่ายที่เป็น Counter Sales จำนวน 7 จุดจำหน่ายจากเดิมที่มี 10 จุดจำหน่ายกระจายอยู่ในลาวและเมียนม่า และขยายจุดจำหน่าย Shop in Shop จำนวน 6 สาขาจากปัจจุบัน 131 จุดจำหน่ายกระจายอยู่ในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน และอินโดนีเซีย
สำหรับตลาดในประเทศช่องทางจำหน่าย Consumer Product ในปีที่ผ่านมามีกระแสตอบรับดีจากผู้บริโภคและกลุ่มนักท่องเที่ยวส่งผลให้ยอดขายมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 151% จากปีก่อน และมีแผนเร่งพัฒนาสินค้าเข้าจำหน่ายใน 7-11 ทั่วประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในต้นไตรมาส 3 นี้ และปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายผ่านร้าน KING POWER จำนวน 8 สาขา 22 จุดจำหน่าย ร้าน Boost 145 สาขา เชื่อว่าจะส่งผลให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น จากการหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายของผู้บริโภค
ปัจจุบัน BEAUTY มีสาขาทุกแบรนด์ในประเทศรวม 349 สาขา โดยในปีนี้มีแผนเพิ่มสาขา BEAUTY BUFFET จำนวน 22 สาขา BEAUTY COTTAGE จำนวน 12 สาขา รวม 34 สาขา
นายแพทย์สุวิน ยังกล่าวถึงการขายหุ้นให้กับนักลงทนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนเฉพาะเจาะจงผ่านรายการบิ๊กล็อต รวม 140 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.66% ของทุนจดทะเบียนว่า เป็นการขายให้กับผู้ลงทุนที่สนใจเข้ามาถือหุ้นในบริษัท เพราะเห็นอนาคตกาเรติบโคตดีที่ดี ขณะที่จะส่งผลดีต่อการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย แต่หลังจากนี้ยังไม่มีแผนจะขายหุ้นออกไปอีก และยืนยันที่จะคงถือหุ้นใหญ่เพื่ออำนาจในการบริหารบริษัทต่อไป
"เรายังคงยืนยันที่จะเป็น Major Shareholder เพื่อที่จะยังคงสามารถดูแลและกำหนดนโยบายต่างๆ โดยเราจะคงสัดส่วนการถือหุ้นที่ไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นร่วมกับครอบครัวอยู่ที่ 22% เรามองว่าช่วงนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นของการขยายกิจการออกไปให้เป็นแบรนด์ที่รู้จักทั่วโลก และเรายังคงจะเติบโตได้อีกมากเหมือนกับแผนที่เราเคยบอกไว้ว่าเราจะมีรายได้ขึ้นไปแตะระดับ 10,000 ล้านบาทในไม่ช้า"นายแพทย์สุวิน กล่าว