บมจ.ซีโอแอล (COL) ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจออฟฟิศเมทปี 61 เติบโต 15% แตะระดับ 8.6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 7.5 พันล้านบาท โดยยอดขายสินค้าผ่านออนไลน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ราว 1.2 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทมีแผนขยายสาขาออฟฟิศเมทเพิ่มอีก 8 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันมี 68 สาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตรียมสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้กลางปี 61
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีโอแอล (COL) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจออฟฟิศเมท ในปี 61 เติบโตประมาณ 15% หรือมาอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท โดยปีนี้บริษัทได้วางแผนการดำเนินงานภายใต้คอนเซ็ปต์ "Accelerate Growth Beyond Boundaries" มุ่งสร้างการเติบโตโดยการขยายขอบเขตการทำธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์หลัก 2 ประการ คือ การแตกไลน์สินค้าใหม่ ได้แก่ กลุ่มที่หนึ่ง Factory Supplies อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้อุปโภคหมวดสิ้นเปลือง สำหรับธุรกิจโรงงานและอุตสาหกรรม เช่น เครื่องมือช่าง อุปกรณ์ซ่อมบำรุง อุปกรณ์จราจรความปลอดภัยทั้งในและนอกอาคาร และอุปกรณ์ป้องกันร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
กลุ่มที่สอง HORECA Supplies เครื่องมือเครื่องใช้อุปโภคหมวดสิ้นเปลือง และอุปกรณ์เพื่อการประกอบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเครื่องบันทึกเงินสด เครื่องชงกาแฟ เครื่องทำความร้อน ชุดเครื่องครัว จาน ชาม แก้ว และกลุ่มที่สาม Medical Supplies & Equipment กลุ่มสินค้าที่เป็นประเภทเครื่องมือ เครื่องใช้อุปกรณ์หมวดสิ้นเปลือง สำหรับสถานพยาบาล สถานบำบัด และคลินิกต่าง ๆ เช่น เครื่องวัดความดัน อุปกรณ์ในห้องผู้ป่วย หูฟังแพทย์ ถุงมือแพทย์ หน้ากากอนามัย เป็นต้น ซึ่งมีสินค้าใหม่รวมกว่า 1 หมื่นรายการ เพื่อเน้นให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มธุรกิจเฉพาะทางมากขึ้น
ปัจจุบัน COL Group ประกอบด้วย 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ ออฟฟิศเมท (OfficeMate), บีทูเอส (B2S), เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ,บีทูเอส เวียดนาม (B2S Vietnam) และมีกลุ่มสินค้าที่จำหน่ายออกเป็น 5 กลุ่ม มีสินค้ามากกว่า 15,000 รายการ ได้แก่ กลุ่มเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน ,กลุ่มอุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในสำนักงาน ,เฟอร์นิเจอร์ ,กลุ่มสินค้าเพื่อธุรกิจเฉพาะทาง และบริการเพื่อธุรกิจ
ทั้งนี้ การชูจุดขาย Omni-Channel เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าองค์กรและ SME ทั่วประเทศ ให้ลูกค้าพึงพอใจในการสั่งซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ Officemate.co.th และ OfficeMate Mobile App ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และลูกค้ายังสามารถเลือกรับสินค้าในจุดที่ลูกค้าสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานของลูกค้า หรือร้านออฟฟิศเมทในสาขาที่ให้บริการ อีกทั้งออฟฟิศเมทยังขยายเวลาการให้บริการของ OfficeMate Contact Canter 1281 จากเดิมเฉพาะวันธรรมดา เป็นทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30-18.00 น. และชูจุดเด่นการจัดส่งสินค้าฟรี เพียงมียอดซื้อขั้นต่ำ 499 บาท โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายทางออนไลน์จะเติบโตมากกว่า 40% หรือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท จากปีก่อนทำได้มากกว่า 1.2 พันล้านบาท โดยวางงบลงทุน 100 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงระบบเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขาร้านออฟฟิศเมทเพิ่มเติมอีก 8 สาขา รวมมีร้านออฟฟิศเมทราว 80 สาขาทั่วประเทศ และมีแผนปรับปรุงสาขาเดิมที่มีการเปิดมานานกว่า 5 ปี คาดจะใช้งบลงทุนรวมราว 150 ล้านบาท รวมถึงการขยายสาขาร้านออฟฟิศเมทในรูปแบบร้านค้าเฟรนไชส์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในรายละเอียดต่าง ๆได้ในไตรมาส 3/61 โดยเบื้องต้นวางงบลงทุนไม่เกิน 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีผู้ขอซื้อเฟรนไชส์แล้วมากกว่า 100 ราย
นายวรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการก่อสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่มาตรฐานสากล บนพื้นที่กว่า 45 ไร่ บนถนนสุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีพื้นที่ภายในคลังสินค้ากว่า 2.2 หมื่นตารางเมตร จะสามารถรองรับสินค้าพร้อมส่งมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า โดยมีการใช้งบลงทุนราว 1 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 2/61 ขณะที่ยังมองการขยายคลังสินค้าในเฟส 2 ต่อเนื่องอีกด้วย
"เราต้องการเป็นผู้นำทางด้าน B2B Business Solutions ซึ่งใครที่มีความสนใจสินค้าหรือบริการ มาที่เราได้ทันที โดยปีนี้เราจะโฟกัสอุตสาหกรรมมากขึ้น จากการแตกไลน์สินค้าในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว และในอนาคตก็จะขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆเพิ่มเติมอีก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า" นายวรวุฒิ กล่าว