(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงทางลบ เหตุกังวลสงครามการค้าจากสหรัฐฯ-ราคาน้ำมันทรงตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 15, 2018 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงทางลบ เนื่องจากมีความกังวลสงครามการค้าจากสหรัฐฯ จากที่สหรัฐฯเตรียมจะเก็บภาษีหลายสินค้าจากจีน ราว 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่สินค้าเทคโนโลยี, โทรคมนาคม เป็นต้น เพื่อลดการขาดดุลการค้ากับจีน ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ

ส่วนราคาน้ำมันก็ทรงตัวในระดับ 60 เหรียญฯ/บาร์เรล พร้อมให้จับตาเงินเฟ้อยุโรปที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ โดยให้ดูแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับขึ้นหรือไม่ อย่างไร

พร้อมให้แนวรับ 1,795-1,800 จุด ส่วนแนวต้าน 1,820 ถัดไป 1,825-1,830 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,758.12 จุด ร่วงลง 248.91 จุด (-1.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,749.48 จุด ลดลง 15.83 จุด (-0.57%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,496.81 จุด ลดลง 14.20 จุด (-0.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 73.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 253.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 18.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 มี.ค.61) 1,813.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.50 จุด (+0.19%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,982.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 60.96
ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 มี.ค.61) ที่ 7.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.13 อ่อนค่าจากวานนี้เล็กน้อย คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 31.10-31.20
  • "อุตตม" มั่นใจเศษฐกิจไทยจะโตก้าวกระโดดจากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะอีอีซีที่จะทำให้เกิดดึงดูดการลงทุนครั้งใหญ่ เผย "สมคิด" เตรียมนำทัพโรดโชว์เดือนพ.ค. นี้ ดึงลงทุน เล็งเป้าญี่ปุ่น จีน ยุโรป หลัง พ.ร.บ.อีอีซีมีความชัดเจน ด้านนักลงทุนญี่ปุ่นมองอีอีซีจะสร้างจุดแข็งให้ไทย "คณิศ" ลั่นลงทุนอีอีซี ดันจีดีพีไทยโตได้ 5% แน่ แย้มนักลงทุนจีนสนใจเพียบ
  • "สมคิด" คาดเกณฑ์ควบคุมการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้ พร้อมชงเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15% จากกำไรจากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และคิดภาษี VAT ตามหลักเกณฑ์การซื้อขายสินค้าและบริการด้วย แต่บุคคลธรรมดา จะได้รับการยกเว้น หากมีการซื้อขายในตลาด
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ยอมรับว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังได้ทำหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี และเชื่อว่าหากสหรัฐเริ่มทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เชื่อว่าสถานการณ์แรงกดดันเรื่องค่าเงินบาทจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น
  • 'คณิศ' ประเมิน 5 ปี ลงทุนภาครัฐและเอกชนในอีอีซีทะลุ 1.7 ล้านล้านบาท แจงคืบหน้า 5 โครงการหลัก 6 แสนล้านบาทเดินหน้าตามแผน ยันลุยแก้กฎหมายหนุนต่างชาติลงทุนแล้ว พ.ค.ร่วมทีม 'สมคิด' เดินสายโรดโชว์จีน ญี่ปุ่น และยุโรป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GFPT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 18 บาท ได้อานิสงส์จากรัฐบาลจีนที่อนุญาตให้นำเข้าไก่สดและชิ้นส่วนไก่แช่แข็งจาก 7 โรงงานของไทย หนึ่งในนั้นมี GFPT CPF และ TFG ซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาไก่ในประเทศปรับขึ้นในระยะถัดไป ล่าสุดบริษัทได้รับการติดต่อจากลูกค้าจีนแล้ว อยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการค้า คาดจะเริ่มส่งออก เม.ย.61 เป็นต้นไป และ GFPT ไม่มีธุรกิจหมูมาถ่วง และราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีที่ลง 3% ยัง Laggard CPF ที่ขึ้น 6% อยู่มาก
  • CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรทั้งใน Q1/61 ที่คาดโตดีจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นตามโรคระบาด รวมถึงทั้งปี 2561 ที่จะถูกขับเคลื่อนจากทั้งฝั่งรายได้ที่โตในอัตราเร่ง และ Margin ที่คาดขยายตัวหลังผ่านช่วงลงทุนใหญ่ไปแล้ว โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปีนี้เร่งตัว +15% Y-Y อยู่ที่ 650 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงสวนทางกับแนวโน้มกำไรและการเคลื่อนไหวของ SET และ SETHELTH รวมถึงปัจจุบันซื้อขายที่ PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก
  • KTB (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 22.70 บาท คาดอาจมีกำไรพิเศษจากกรณี AQ โดยคาด KTB ยังรอบันทึกกำไรจากการขายทอดตลาดที่ดินของ AQ คาดสูงเกือบ 10,000 ล้านบาท (ยังไม่ได้รวมเข้าในประมาณการ) อย่างไรก็ตามคาดกำไรพิเศษดังกล่าว บางส่วนจะนำกลับไปเป็นสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับกับมาตรฐาน IFRS9 ที่จะบังคับใช้ในต้นปี 62 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 61 เติบโตกว่า 40% คาดอยู่ที่ 31,841 ล้านบาท หรือ 2.28 บาท/หุ้น โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้จะลดลง 28.5% จากปี 60 จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น และคาดไม่มีการตั้งสำรองหนี้ก้อนใหญ่ เช่นปี 60 (EARTH 12,000 ล้านบาท)
  • HARN (เออีซี) "ซื้อ"คงคาดปี 61 HARN จะมีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท โตต่อ 11.7%YoY จากแผนเพิ่มสินค้าใหม่ๆและแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และมี Upside 53.6% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 6.1%
  • PACE-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) ครั้งที่ 1) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,476,132,380 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.80 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 6 เดือน นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 22 พ.ค. 2561 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 22 ส.ค. 2561
  • PACE-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) ครั้งที่ 2) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 2,460,220,171 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 21 ก.พ. 2563 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 22 ก.พ. 2566

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ