นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจตาแบค (GTB) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 8-10% จากปี 2560 โดยปัจจัยหนุนมาจากบริษัทมีงานในมือรอรับรู้ (Backlog) ซึ่งไตรมาสแรกของปี 2561 คาดว่าจะรับรู้รายได้มากกว่า 700 ล้านบาท รวมไปถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทน ทำให้บริษัทมีผลดำเนินงานเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
โดยปีนี้บริษัทวางแผนทำตลาดเครื่องกำเนิดไอน้ำที่ใช้พลังงานทดแทนเป็นเชื้อเพลิง โดยจะเจาะตลาดใหม่เพิ่มในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศแอฟริกา กลุ่มประเทศเอเชียใต้ และรัสเซีย เป็นต้น
"ปี 2560 ที่ผ่านมานับเป็นปีบุกเบิกของบริษัทอีกปีหนึ่ง เพราะบริษัทได้ลงทุนนำเทคโนโลยีระบบ smart และ IOT มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ สินค้ารุ่นใหม่ ติดตั้งเครื่องจักร CNC เพิ่มในสายการผลิต เพิ่มโปรแกรมคำนวณรุ่นใหม่และบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถด้านงานวิศวกรรมและการตลาด ซึ่งปีนี้น่าจะเริ่มเห็นผลจากการที่บริษัทได้ลงทุนไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเครื่องกำเนิดไอน้ำที่ใช้พลังงานทดแทนเป็นเชื้อเพลิงยังคงมีการเติบโตสูง"นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 1,369.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.60% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43.19 ล้านบาท ลดลงจากระดับกำไรสุทธิ 72.88 ล้านบาทในปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่ทันสมัยมาเพิ่มในส่วนการผลิตและทำการเปิดตลาดใหม่ ๆ ทำให้บริษัทต้องเสนอราคางานที่มีอัตรากำไรน้อยเพื่อให้ได้งานซึ่งจะเป็นฐานลูกค้าใหม่ของบริษัทในอนาคต
อย่างไรก็ตามขณะนี้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็มีการขยายตัว ทำให้หันมาใช้พลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพื่อผลิตสินค้ามากขึ้นและบางบริษัทได้เตรียมขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตและเป็นไปตามที่ได้วางแผนไว้
ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบคือ รายได้ตามสัญญา โดยเป็นรายได้ที่เกิดจากการผลิต ติดตั้ง จำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องกำเนิดไอน้ำ รายได้จากงานโครงการพิเศษซึ่งเป็นเครื่องกำเนิดไอน้ำขนาดใหญ่ และรายได้จากการให้บริการ เป็นรายได้จากการให้บริการหลังการขาย การซ่อมแซมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์