ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,813.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 29,773.25 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,820.51 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,811.30 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ดูแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบเฉลี่ยราว 0.2-0.5% โดยช่วงนี้ตลาดภูมิภาคมักจะเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งต่างก็รอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ย และรอดูทิศทางของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะขยับขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดไปได้ไม่ไกลเนื่องจากยังมีหุ้นขนาดใหญ่ที่เผชิญแรงขายทำกำไรออกมา ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ADVANC, TRUE รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานบางตัว โดยหุ้นขนาดใหญ่มีจุดที่นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นจากทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะเป็นอย่างไร และนักลงทุนสถาบันก็กำลังประเมินในการเปลี่ยนกลุ่มเล่นด้วย ทำให้ได้เห็นการทยอยการปรับลดการถือหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องการตั้งสำรองฯ ดังนั้น จึงมีหุ้นตัวอื่น ๆ ที่นักลงทุนรายย่อยยังลงทุนอยู่ช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง แต่หากนักลงทุนบางกลุ่มมองหุ้นในกลุ่มแบงก์น่าสนใจก็ในประเด็นของการเลือกตั้ง ทำให้มีน้ำหนักที่จะลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง และเล็กที่ยัง Laggard ซึ่งยังเคลื่อนไหวได้ดี
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะทรงตัวเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้า โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,810-1,820 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,764.22 ล้านบาท ปิดที่ 560.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,745.95 ล้านบาท ปิดที่ 7.10 บาท ลดลง 0.15 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,617.87 ล้านบาท ปิดที่ 508.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,301.59 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,202.34 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท ลดลง 0.10 บาท