นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย, ภาษี , ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 61 ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อน หลังมีแผนปิดปรับปรุงโรงกลั่นตามแผนงาน 45 วัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและการกลั่น ในช่วงไตรมาสที่ 2/61 ทำให้บริษัทคาดว่าจะมีการกลั่นลดลงเหลือ 1-1.02 แสนบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าค่าการกลั่น (GRM) ปี 61 ไม่เกิน 6.50 เหรียญ/บาร์เรล จากเดิมคาด 6-7 เหรียญ/บาร์เรล
ส่วนด้านการตลาด (Marketing) คาดยอดขายสูงขึ้นจากปีก่อน จากมีการบริการลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมสถานีบริการน้ำมันเดิม เพื่อให้มีการบริการที่ครบครันมากขึ้น ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าในปี 61 จะมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้น โดยจะมีโครงการโซลาร์ฟาร์มในไทยแล้วเสร็จอีก 8.94 เมกะวัตต์ และที่ญี่ปุ่นอีก 4 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันบริษัทวางงบลงทุนปีนี้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงโรงกลั่นในสัดส่วน 39% และงบลงทุนขยายตลาด 18% ซึ่งจะมีการเปิดสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น 80 แห่ง เปิดร้านอินทนิลเพิ่ม 200 แห่ง และเปิดร้าน SPAR เพิ่ม 30 แห่ง และลงทุนในธุรกิจไบโอเบส 7% ส่วนการลงทุนอื่น ๆ อีก 36% บริษัทมีแผนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมไบโอคอมเพล็กซ์ ในจังหวัดฉะเทริงเทรา ซึ่งคาดจะสรุปได้ในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทคาดนำบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในไตรมาสที่ 4/61 เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจด้านชีวภาพ