นายบุญเลิศ ใจมั่น ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 จะพลิกกลับมามีกำไร หลังจากไตรมาส 4/60 มีผลขาดทุน 85 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/61 ไม่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษอื่น ๆ เข้ามากดดัน อย่างที่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษในการตั้งสำรองของลูกหนี้การค้า คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จำนวน 337 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60 ทำให้เป็นตัวฉุดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 และผลการดำเนินงานทั้งปี 60
ขณะเดียวกันในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ และเริ่มมีการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนที่ช่วยให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 ฟื้นตัวขึ้น ส่วนในแง่ของอัตรากำไรสุทธิของบริษัทในปี 61 ตั้งเป้าเพิ่มมาอยู่ที่ 2.5-3.0% จากปีก่อนที่ 0.31% มาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ที่จะมีการพิจาณาทยอยปิดบริษัทที่ไม่ทำกำไร การควบคุมต้นทุนและการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ
อีกทั้งจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรในบริษัทร่วมที่กลับมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งคาดว่าได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ลดลงมาอยุ่ที่ 483 ล้านบาท เพราะรับผลกระทบต้นทุนราคาวัตถุดิบเหล็กเพิ่มขึ้น ในบริษัท NS BlueScope ที่ LOXLEY ถือหุ้น 20% และในปีนี้มีการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กเป็น 480,000 ตัน/ปี จากปีก่อนที่ 330,000 ตัน/ปี และในส่วนบริษัท BP Castrol (Thailand) ที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันเครื่องหล่อลื่น ซึ่ง LOXLEY ถือหุ้น 40% ในปี 61 จะเน้นการทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง พร้อมกับเจาะตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น
ด้านการประมูลงานโครงการต่างๆในปี 61 บริษัทจะเน้นงานที่ให้มาร์จิ้นสูงเป็นหลัก โดยงานโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีมาร์จิ้นอยู่ที่ 10-12% และงานขนาดโครงการขนาดเล็กจะต้องมีมาร์จิ้นอยู่ที่ 12-15% ซึ่งบริษัทมีมูลค่างานโครงการที่ติดตามและจะเข้าประมูลในช่วงปี 61-62 มูลค่าทั้งหมด 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนของงานที่จะมีการเปิดประมูลในปีนี้ที่เป็นงานที่บริษัทมีความถนัดและมีโอกาสได้รับงานมากที่สุด (High Potential) ที่บริษัทติดตามมีมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดหวังได้งาน 60-70% และส่วนที่เหลืออีก 8 พันล้านบาท เป็นงานที่บริษัทมีถนัดและสนใจเข้าร่วมประมูลซึ่งจะทยอยเปิดประมูลในปี 61-62
โดยบริษัทมีเป้าหมายรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไอที ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่น และธุรกิจบริการ โดยจะมีการรับรู้รายได้ในปีนี้คิดเป็น 68% ของ Backlog ทั้งมด ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีถัดไป ซึ่งบริษัทได้วางเป้าหมายรายได้ปี 61 เติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการซื้อหุ้นคืน หลังราคาหุ้น LOXLEY ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเป็นการศึกษาและพิจาณาในเรื่องของการซื้อหุ้นคืนของทีมบริหาร เพื่อสร้างความมั่นใจของผู้ถือหุ้นและนักลงทุนให้กลับมาเชื่อมั่นมากขึ้น แต่เรื่องการพิจารณาซื้อหุ้นคืนจะไม่ได้บรรจุอยู่ในวาระการพิจารณาในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในช่วงปลายเดือนนี้ เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทไม่เคยทำมาก่อน และต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา ซึ่งหากมีความมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่แน่นอนแล้วบริษัทจะนำเรื่องการพิจารณาซื้อหุ้นคืนเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในลำดับต่อไป
ส่วนงบลงทุนรวมในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 80-100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานและดูแลอาคารสำนักงานของบริษัท โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนที่ไว้ใช้สำหรับการรับงานโครงการที่ประมูล ซึ่งเป็นรูปแบบการกู้เยืมเงินแบบโปรเจคไฟแนนซ์