นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล (KOOL) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้จากปีก่อนขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 84.24 ล้านบาท และคาดอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะดีกว่าปี 60 ที่อยู่ที่ 25.46% หรือกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 59 ที่อยู่ราว 36% เนื่องจากภาพการแข่งขันในปีนี้ปรับตัวลดลง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการลงไปสำรวจตลาดก็พบว่าคู่แข่งเหลืออยู่ไม่กี่แบรนด์ ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งการขายและการบริหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 553.35 ล้านบาท จากการรุกขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศกลุ่มซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย ,นิวซีแลนด์ และอเมริกาใต้ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีนี้เติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 20% พร้อมกับจะนำสินค้าไปจัดแสดงภายในงานแสดงสินค้าที่ประเทศจีนด้วยในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของ KOOL ในการผลักดันรายได้ให้เติบโต ส่วนในประเทศ จะโฟกัสช่องทางการขายที่มีคุณภาพมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทไม่พึ่งพาฤดูกาล คาดว่าจะออกสินค้าได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/61 หรือต้นไตรมาส 3/61 ซึ่งน่าจะเป็นตัวช่วยในการสนุบสนุนการขายในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมวางงบประมาณด้านการตลาดไว้ที่ 30 ล้านบาท เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางการขายบนระบบอีคอมเมิร์ซ และเว็บไซต์ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายผ่านออนไลน์จะเติบโตมาที่ระดับ 10% จากเดิม 5% ซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับคู่ค้า เช่น Lazada , Shopee เป็นต้น อย่างเข้มข้น
สำหรับบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด บริษัทย่อยของ KOOL เน้นบริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร โรงแรม และโรงพยาบาล ที่ต้องการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันก็มีการเจรจาเพื่อหาลูกค้าเข้ามาเพิ่ม หลังจากที่เข้าไปทำระบบโอโซนให้กับห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัสแล้วจำนวน 30 สาขา โดยคาดว่าน่าจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง