นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) เปิดเผยว่า เตรียมวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จเช่นโครงการที่ผ่านมา ขณะที่ยังวางแผนขยายธุรกิจด้านโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น ผลักดันให้รายได้รวมในทุกหน่วยธุรกิจอยู่ที่ 10,000-12,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับแผนธุรกิจมุ่งขยายกลยุทธ์การลงทุน เพื่อเพิ่มการสร้างรายได้ประจำมากขึ้น หลังราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การแข่งขันในกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่จึงมีความรุนแรง ส่วนการพัฒนาที่อยู่อาศัยยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยวางแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในแต่ละปีจำนวน 2-3 โครงการ ด้วยมูลค่าโครงการโดยรวม 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัท ที่จะมุ่งพัฒนาโครงการฟรีโฮล ระดับพรีเมียม บนทำเลทอง ด้วยคุณภาพสินค้าที่ดีและราคาสมเหตุสมผล
ขณะที่เมื่อปลายปี 59 บริษัทได้เช่าพื้นที่ 6 ไร่บนถนนเพลินจิต ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งตรงข้ามกับเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยไรมอน แลนด์ กำลังวางแผนที่จะสร้างอาคารสำนักงาน 60 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 61,000 ตารางเมตร และจะรับรู้รายได้บางส่วนในปี 64 ส่วนการรับรู้รายได้ทั้งหมดคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 66 โดยจะมีรายได้กว่า 720 ล้านบาทต่อปีและมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนขยายธุรกิจด้านโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ซึ่งปัจจุบันมีแผนที่จะสร้างเซอร์วิส อพาร์พเมนต์ ระดับไฮเอนด์และแบรนด์เรสซิเดนซ์ร่วมกับแบรนด์ชื่อดัง โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจา ขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมใหม่ หรือที่มีอยู่แล้วอีกด้วย ส่วนธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทได้จับมือกับกลุ่มร้านอาหารบ้านหญิง เพื่อขยายธุรกิจไปยังระดับภูมิภาค โดยร้านอาหารบ้านหญิง เป็นแบรนด์อาหารไทยขึ้นชื่อ ซึ่ง 2 สาขาแรก ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ชื่อ บ้านหญิง และดิงค์ ดิงค์ (Dink Dink)
ทั้งนี้ร้านบ้านหญิงเป็นแฟรกซ์ชิพ จำนวน 200 ที่นั่ง เป็นอาหารไทยแบบทานง่าย ส่วนร้านดิงค์ ดิงค์ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไทย จำนวน 60 ที่นั่ง ซึ่งบริษัทมีกลยุทธ์การขยายสาขาไม่น้อยกว่า 10 สาขา ทั่วเอเชีย ภายใน 63 โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างรายได้ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 65
"RML ได้เริ่มปูทางการขยายการสร้างรายได้อย่างมั่นคงมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังคงลงทุนในธุรกิจหลักของบริษัท โครงการ เดอะ ลอฟท์ สีลม ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นหนึ่งในโครงการที่ประสบความสำเร็จที่สุด โดย ณ วันนี้ ขายไปทั้งหมดกว่า 80% แล้ว...จากการประมาณการรายได้ประจำเฉพาะโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้น รายได้จะแตะ 1,800 ล้านบาท ภายในปี 65 สอดรับกับเป้าหมายรายได้รวมในทุกหน่วยธุรกิจอยู่ที่ 10,000-12,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า"นายเอเดรียน ลี กล่าว
นายเอเดรียน ลี กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่ามีความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยมีสัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน (D/E) เพียงแค่ 0.67 เท่า ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทมีความสามารถในการเพิ่มแหล่งเงินทุนได้อีกจำนวนมากจากหลายช่องทาง อีกทั้งทีมผู้บริหารที่มีความชำนาญและมีความแข็งแกร่ง ที่พร้อมจะนำพาบริษัทเติบโตไปสู่จุดหมาย
อย่างไรก็ตามแม้ในช่วงปีที่ผ่านมาโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อการบริหารงานแผนการดำเนินธุรกิจในปี 61 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทีมผู้บริหารมืออาชีพ มีประสบการณ์ทำงานมาอย่างยาวนาน พัฒนาบริษัทให้เติบโต พร้อมที่จะนำพาองค์กรเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้นในอนาคต
"ผมและทีมผู้บริหารของ RML อยากให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าทุกคนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ มีโครงการใหม่เตรียมเปิดอีกหลายโครงการ มีโครงการในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ มีโปรเจ็คใหม่ ๆ รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจลงทุนในธุรกิจที่จะช่วยต่อยอดรายได้ สร้างผลกำไรให้งอกงาม และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"