นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวถึงกระแสข่าวลือ การขายหุ้น EA ของตนเองและภรรยา รวมทั้งครอบครัวออกมาในช่วงที่ผ่านมานั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
"ผมและครอบครัวไม่ได้มีการขายหุ้นออกมาแม้แต่หุ้นเดียว รวมถึงผู้บริหารหลักๆ ทุกคน ก็ไม่ได้มีการขายหุ้นออกมาเช่นกัน อีกทั้งข่าวลือทั้งหลายก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด"นายสมโภชน์ แถลงวันนี้
จากการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับลดลงอย่างต่อเนื่องและมีการขายออกมาจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม เป็นต้นมานั้น บริษัทได้ปิดสมุดทะเบียนเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นแล้ว พบว่า กลุ่มผู้ที่ขายหุ้นออกมามากเป็นพิเศษคือ กองทุนหุ้นระยะยาวของ บลจ.สองแห่ง โดยแห่งที่ 1 ขายออกมากว่า 32 ล้านหุ้น และแห่งที่ 2 ขายออกมาอีกกว่า 9.7 ล้านหุ้น
และยังมีการขายชอร์ตเซลอีกจำนวนรวมกว่า 48.9 ล้านหุ้น โดยเฉพาะจากบุคคลธรรมดา 2 รายที่มีจำนวนหุ้นสูงถึง 12 ล้านหุ้น จึงเกิดผลทางจิตวิทยา ประกอบกับมีการปล่อยข่าวลือด้านลบมากมาย
"ในช่วงราคาหุ้นของบริษัทฯมีความผันผวนและปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก บริษัทฯจึงได้เข้าไปตรวจสอบเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยประเด็นมีประเด็นหลักๆอยู่ 3 ประเด็นคือ 1.การขายหุ้นออกมาจำนวนมากของ จึงได้มีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อที่จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น พบว่า มี บลจ. 2 แห่ง และมีการขายชอร์ตเซล ออกมาจำนวนมาก
ประเด็นที่ 2 คือข่าวลือต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเริ่มข่าวลือที่ว่ากลุ่มอาหุนัย และผู้บริหารหลัก ได้ขายหุ้นออกมาซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นความจริง หากดูจากจำนวนหุ้นทั้งหมดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงและในช่วงที่ผ่านมาเพื่อสร้างความมั่นใจก็ได้เข้าไปซื้อหุ้นเข้ามาจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่าจากการหาเหตุผลที่หุ้นปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีการคาดเดากันว่าการขายหุ้นเยอะหากจะเกิดขึ้นก็ต้องเป็นคนที่มีหุ้นเยอะๆนั่นเหละเป็นผู้ขายออกมา หนึ่งในนั้นก็เป็นผมเอง ซึ่งก็เป็นข่าวลือที่เกิดขึ้นมา"นายสมโภชน์ กล่าว
นายสมโภชน์ กล่าวว่า ข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมายังมีข่าวเกี่ยวกับปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง มีคดีฟ้องร้องกัน ทุจริตฉ้อโกงหอบเงินหนีไปทางไต้หวัน ผู้บริหารถูกยิง บริษัทมีปัญหาการเงินจนอาจจะเพิ่มทุน ผลประกอบการปี 60 ต่ำกว่าที่คาด และจะแย่ลงอีกเพราะจะมีค่าใช้จ่าย R&D และการเริ่มธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกมาก โครงการแบตเตอรี่ทำไม่ได้จริงเพราะพื้นที่ที่จะทำโรงงานติดปัญหาเป็นพื้นที่สีเขียว นักวิเคราะห์บางรายออกบทวิเคราะห์ให้ราคาต่ำมาก เป็นต้น ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
"ข่าวลืออย่างเช่นผมฉ้อโกงบริษัทฯ ขายหุ้นแล้วหอบเงินไปใต้หวัน แล้วเราจะหอบไปได้เยอะหรือครับ เพราะทำแบบนี้ก็ได้เป็นเงินสด และการทำแบบนั้นผมมีเงินกองใหญ่อยู่ในหุ้นอยู่ดี ผมจะเสียมากกว่าได้ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ผมจะไปทำแบบนั้น มีข่าวลืออีกว่าผมโดนยิง โอ้โห มันเป็นไปถึงขนาดนั้นเลยหรือ"นายสมโภชน์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าตามแผนการลงทุนโครงการสำคัญๆ ในช่วงปี 61-62 ที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บริษัทจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาในปีนี้ประมาณ 8 พันล้านบาท และปีหน้าคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลักๆ มาจากรายได้การขายไฟฟ้า จึงเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายลงทุน ด้านการกู้ยืมระยะยาวจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้น และคาดว่าก้อนใหญ่จะเป็นต้นปีหน้า
สำหรับในปีนี้งบประมาณส่วนใหญ่เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลม จ.ชัยภูมิ ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับเครดิต จากซัพพลายเออร์ให้ชำระเงินส่วนใหญ่กว่า 1 หมื่นล้านบาทในเดือนมี.ค. ปีหน้า จึงไม่กระทบกับแผนการจัดการด้านการเงิน และความคืบหน้าโครงการเป็นไปด้วยดี กังหันลมชุดแรกมาถึงแล้วเมื่อวันที่ 14 มี.ค.และจะนำไปติดตั้งทันที จึงมั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ปลายปีนี้
"มีข่าวลืออีกว่าบริษัทฯมีโครงการมากมาย และเป็นมูลค่ามาก ส่งผลให้บริษัทฯต้องมีการเพิ่มทุน ซึ่งหากเปรียบเทียบมูลค่าการลงทุนที่อาจจะมองว่ามาก แต่ด้วยขนาดของบริษัทฯในปัจจุบัน กระแสเงินสดต่างๆ บริษัทฯทำอย่างมีสติ"นายสมโภชน์ กล่าว
นายสมโภชน์ ยังยืนยันแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟสแรกขนาด 1 กิ๊กะวัตต์ โดยจะใช้เงินลงทุนราว 4 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้สั่งซื้อเครื่องจักรสำคัญไปแล้ว และจะลงทุนระบบสาธารณูปโภคไว้เผื่อสำหรับรองรับการก่อสร้างโรงงานทั้งหมด 50 กิ๊กะวัตต์ด้วย และได้ยื่นขอรับการส่งเสริมภายใต้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จึงไม่มีปัญหาเรื่องผังเมืองตามที่เป็นข่าวลือ ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปี 61 และจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 2/62 จากนั้นจะผลิตเชิงพาณิชย์เฟสแรก
พร้อมกันนั้น ยังยืนยันว่าแบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีที่ป้องกันการเกิดไฟไหม้ จึงมีความปลอดภัยสูง โดยจะนำไปใช้กับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการสูงโดยเฉพาะในต่างประเทศ ส่วนเฟสสองอีก 49 กิ๊กะวัตต์นั้นจะเน้นเป้าหมายอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเป็นหลัก และสามารถรองรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตได้ ซึ่งจะมีการจัดโครงสร้างการลงทุนร่วมกับพันธมิตร จึงเชื่อว่า EA ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
นอกจากจะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แล้ว บริษัทยังได้ทำการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นฝีมือของคนไทย 100% ด้วยงบประมาณวิจัยและพัฒนา (R&D) ในปี 60 เพียง 11.21 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการพัฒนารถยนต์ของผู้ผลิตรายอื่น รวมทั้งลงทุนตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายติดตั้งรวมทั้งสิ้น 1,000 สถานีทั่วประเทศภายในปีนี้
"(โครงการแบตเตอรี่)มีข่าวลือออกมาเช่นกันว่าทางบริษัทฯไม่สามารถทำได้ การแข่งขันสูง เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลาดผู้รับซื้อก็ยังไม่มี โดยสิ่งเหล่านี้ทางบริษัทฯมีการทำงานแบบเป็นขั้นเป็นตอนไม่ได้เป็นการทำครั้งเดียว และด้วยเงินสดที่ทางบริษัทฯมีนั้นเพียงพอที่จะสามารถทำโครงการนี้ขึ้นมาได้
ลืออีกว่าบริษัทฯไปเสียค่าวิจัยและพัฒนาจำนวนมาก ไปทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งหากเราไม่ทำแบบนี้เราจะเต บโตได้ยังไง อย่างปัจจุบันธุรกิจไฟฟ้าจากลม ไฟฟ้าจากแดด ก็ได้รับการยอมรับ แต่ตอนนั้นที่เราเริ่มทำก็ไม่ได้มีการยอมรับมากเท่าไหร่เหมือนกัน เราทำก็เพื่อยึดหัวหาดเอาไว้ก่อน และเราเชื่อว่าอนาคตยังไงก็มา"นายสมโภชน์ กล่าว
ส่วนพื้นที่ของการทำโครงการโรงงานผลิตแบตเตอรี่นั้น แม้ว่าในปัจจุบันจะอยู่ระหว่างขออนุญาตที่จะขอดำเนินการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่สีเขียว แต่เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ แต่หากไม่สามารถทำได้บริษัทฯขอบืนยันว่าจะมีพื้นที่ในการรองรับการพัฒนาโครงการอย่างแน่นอน
ประเด็นสุดท้ายคือ บทวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ ที่ให้ราคาเป้าหมายค่อยข้างต่ำเมื่อเทียบกับ บล. อื่นๆ ซึ่งหากเป็นรายอื่นๆที่ไม่ใช่ บล.ไทยพาณิชย์ผลอาจจะน้อยกว่านี้ หรือหากมาเขียนในช่วงที่ไม่ได้มีการขายหุ้นออกมามากๆ นักลงทุนก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร
"บังเอิญว่าธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารหลักที่สนับสนุนวงเงินในการลงทุนของเราทำให้คนบางคนไปคิดต่อว่าทำไมผู้สนับสนุนวงเงินหลักถึงเขียนบทวิเคราะห์ออกมาให้ราคาแย่ที่สุด หรือธนาคารไทยพาณิชย์ไปรู้อะไรมาหรือเป่า ก็เป็นข่างลืออีกหละครับตอนที่ฝุ่นตลบ ข่าวลือเต็มตลาด ซึ่งผมมองว่าต่างคนต่างทำงานไม่เกี่ยวกัน แต่คนข้างนอกไม่ได้มองแบบนั้น แต่มองว่านี่คือไทยพาณิชย์"นายสมโภชน์ กล่าว
"การที่นักวิเคราะห์แต่ละรายมีความเห็นด้านราคาหุ้นแตกต่างกันระหว่าง 27-110 บาทนั้น เป็นเหตุจากความรู้ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทที่ไม่เท่ากัน"นายสมโภชน์ กล่าว
นายสมโภชน์ ยังเปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/61 จะเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้โครงการพลังงานลมหาดกังหัน ขนาดกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์เข้ามา ขณะที่โครงการอื่นๆยังมีการการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบอย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ราคาหุ้น EA ปิดตลาดวันนี้ที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท (+5.46%)