(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามภูมิภาค เหตุกังวลนโยบายของสหรัฐฯ ,รอดูผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 20, 2018 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายจากสหรัฐฯเป็นหลัก โดยนโยบายต่าง ๆ ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งเรื่องสงครามการค้า, การต่างประเทศ รวมไปถึงการเมืองที่มีการปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายรายออกจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ ตลาดฯ ก็กำลังอยู่ในช่วงของการรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,790 จุด ส่วนแนวต้าน 1,810-1,820 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,610.91 จุด ร่วงลง 335.60 จุด (-1.35%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,712.92 จุด ลดลง 39.09 จุด (-1.42%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,344.24 จุด ลดลง 137.74 จุด (-1.84%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 182.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 22.03 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 198.34 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 30.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.45 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 มี.ค.61) 1,799.79 จุด ลดลง 11.97 จุด (-0.66%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,029.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 62.06
ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 มี.ค.61) ที่ 7.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.19 ตลาดจับตาความชัดเจนนโยบายดอกเบี้ยในอนาคตของเฟด
  • "แบงก์ชาติ"ศึกษาแผนการนำ"เงินดิจิทัล"ใช้ชำระราคาในตลาดอินเตอร์แบงก์ผ่านบล็อกเชน ร่วมกับ 5 ธนาคารพาณิชย์ ตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้ชื่อโครงการ"อินทนนท์"หวังลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ ย้ำไม่ใช้กับประชาชนทั่วไป ขณะสถาบันการเงินมองเป็นเรื่องดี ช่วยระบบโอนเงินพัฒนาขึ้น สะท้อน ธปท.ไม่ได้ปิดกั้น
  • "สมคิด"ชี้ 2 ปีเศรษฐกิจไทย ดีขึ้นกว่าเท่าตัว รัฐเร่งลงทุน เชื่ออนาคตมีโอกาสขยายตัวเกิน 4% ขยายตัวได้เพิ่ม สั่งคมนาคมขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูง กทม-หัวหินถึงสุราษฎร์ธานี ไทยพร้อมลงทุนเส้นตะวันตก-ตะวันออกเชื่อมเวียดนาม "ไพรินทร์"เผยเกาหลีใต้ส่งผลศึกษาแล้ว เตรียมเปิดข้อมูลดึงนักลงทุนเร็วๆ นี้
  • กนอ.เร่งศึกษาจัดตั้งตลาดกลางซื้อขายผลไม้ในนิคมฯ สมาร์ทพาร์ค สนองนโยบายระเบียง ผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) ดันไทยมหานครผลไม้โลก เล็งใช้รูปแบบตลาดกลางโอตะ โตเกียว ปรับใช้จ่อเสนอรัฐใช้กลไกสหกรณ์บริหาร

*หุ้นเด่นวันนี้

  • INTUCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 67.50 บาท ประกาศจ่ายปันผลงวด H2/60 ที่ 1.27 บาท/หุ้นและปันผลพิเศษอีก 0.19 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.5% ขึ้น XD วันที่ 9 เม.ย. 61 ด้านราคาหุ้น Discount จาก NAV มากถึง 23% (ค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ 20%) พร้อมคาดกำไรสุทธิปีนี้ 13,316 ลบ. +25% Y-Y ส่วนกำไรปกติคาด 12,633 ลบ. +5% Y-Y โตครั้งแรกในรอบ 3 ปีเช่นเดียวกับ ADVANC
  • EA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 77 บาท มองราคาหุ้นลดลงกว่า 30% ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สะท้อนความกังวลในเรื่อง Valuation, ความเสี่ยงของธุรกิจแบตเตอรี่ และข่าวการยกเลิก MOU กับ PTT ไปแล้ว ขณะที่ผลการดำเนินงานยังคงเดิม โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%yoy ขณะที่ธุรกิจแบตเตอรี่จะเพิ่มมูลค่าให้ในระยะยาว เบื้องต้นประเมินมูลค่าจากธุรกิจแบตเตอรี่ที่ 50 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นโครงการในประเทศ 21.7 บาท และต่างประเทศ 28.2 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ
  • KKP (เอเชีย เวลท์) "ซื้อ"เป้า 90 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดีและสินเชื่อที่เติบโตโดดเด่น โดยประกาศจ่ายเงินปันผล 3 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนครึ่งปีที่ 3.9% หรือ 7.7% ต่อปี กำหนดขึ้น XD 2 พ.ค.61 นอกจากนี้ สินเชื่อ KKP ณ สิ้น ก.พ.61 โตแข็งแกร่งที่ 2.6% YTD และ 11.0% YoY เทียบกับเป้าปีนี้ที่ 10% หนุนโดยสินเชื่อทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อยที่ไม่ใช่เช่าซื้อ กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ และลอมบาร์ด จึงคาดการณ์ EPS จะโต 10.2% ในปี 61 และ 9.3% ในปี 62
  • KTB (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 22.70 บาท คาดยังรอบันทึกกำไรจากขายทอดตลาดที่ดิน AQ สูงเกือบ 10,000 ล้านบาท (ยังไม่ได้รวมเข้าในประมาณการ) แต่กำไรพิเศษดังกล่าวบางส่วนจะนำกลับไปเป็นสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับกับมาตรฐาน IFRS9 ต้นปี 62 พร้อมกำไรสุทธิปี 61 โตกว่า 40% คาดที่ 31,841 ล้านบาท หรือ 2.28 บาท/หุ้น โดยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้จะลดลง 28.5% จากปี 60 จากคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น และคาดไม่มีการตั้งสำรองหนี้ก้อนใหญ่เช่นปี 60 (EARTH 12,000 ลบ.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ