นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้แต่อยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากยังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยตลาดฯคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีทิศทางที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แต่ก็ต้องรอดูเสียงของคณะกรรมการเฟดถ้ามีการเสียงแตกออกมาในการเสนอปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้ง ก็อาจจะทำให้ตลาดผันผวนได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ขานรับการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ทำให้ไปหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ก็ปรับตัวขึ้นด้วย ซึ่งการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นดูเหมือนจะไปขัดแย้งกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ดังนั้นจะต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ตลาดฯเป็นของผู้เล่นหลักคือ นักลงทุนสถาบัน ซึ่งก็มีการถือครองหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีอยู่มาก ดังนั้น บางทีอาจมีการสลับกลุ่มลงทุนบ้างเช่นกัน ซึ่งหุ้นที่สถาบันจะเข้าลงทุนก็น่าจะเป็นหุ้น SCC เพราะยัง Laggard อยู่มาก และหุ้นในกลุ่มการแพทย์ รวมถึงหุ้นในกลุ่มแบงก์ด้วย ซึ่งก็ชอบหุ้น BBL, KTB
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,790-1,806 จุด