KKP รุกขยายฐานลูกค้าสินเชื่อ SME ส่ง"KK SME คูณ 3" รับวงเงิน 3 เท่า ผ่อนยาวสูงสุด 20 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 21, 2018 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภัทรพงศ์ รักตะบุตร ประธานสายช่องทางการตลาดและพัฒนาฐานลูกค้า ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ตามที่ธนาคารเกียรตินาคินได้เปิดตัวสินเชื่อ KK SME รถคูณ 3 เมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา โดยเป็นธนาคารแรกที่ใช้รถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี ให้วงเงินสูงสุด 3 เท่าของมูลค่ารถหรือสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อรายนั้น ผลปรากฏว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะเอื้อต่อการนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีความต้องการของลูกค้าในการใช้วงเงินสินเชื่อที่สูงกว่า KK SME รถคูณ 3 เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในโครงการที่ใหญ่ขึ้นประกอบกับภาครัฐได้มีนโยบายสนับสนุนการทำธุรกิจของกลุ่มเอสเอ็มอี ธนาคารจึงได้ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อ KK SME คูณ 3 โดยใช้อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์ถาวรมาเป็นหลักประกัน เพื่อตอบโจทย์ทั้งเอสเอ็มอีขนาดเล็กและกลางที่มีศักยภาพสูงแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตลอดจนปลดล็อกข้อจำกัดให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

ทั้งนี้ สินเชื่อ KK SME คูณ 3 จะครอบคลุมวงเงินถึง3 ประเภท คือ สินเชื่อประเภทเงินกู้แบบมีระบบเวลา (Term Loan) สินเชื่อเงินเบิกเกินบัญชี (Overdraft) และหนังสือค้ำประกัน (LG) จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือ ให้วงเงินสูงสุด 3 เท่าของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันหรือสูงสุดถึง 15 ล้านบาท

โดยอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้าน คอนโดมิเนียมอาคารพาณิชย์อาคารโรงงาน โกดัง และที่ดินเปล่า นอกจากนั้นยังสามารถใช้การค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 20 ปี (เฉพาะลูกค้าซื้อทรัพย์ และ Refinance) และมีอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันกับตลาดได้

นอกจากนี้ เพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย ธนาคารยังรับภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันกับบสย. 1.75% ของวงเงินสินเชื่อให้ตลอดอายุสัญญา อีกทั้งยังตั้งทีม Relationship Manager ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทำหน้าที่วิเคราะห์ลักษณะธุรกิจตลอดจนความต้องการของลูกค้า และคอยติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาสินเชื่อด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มเอสเอ็มอีกำลังมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการต่างๆ ทำให้เกิดการจ้างงานและการกระจายรายได้ รวมทั้งเป็นซัพพลายเชนของธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ โดยข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ช่วงไตรมาสที่ 2/60 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของธุรกิจเอสเอ็มอีมีมูลค่า 1.56 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับ 42% ของจีดีพีประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจีดีพีรวมถึง 5.2 ล้านล้านบาท หรือ 39.6% ของจีดีพีรวม

"จากการทดลองตลาดผลิตภัณฑ์ KK SME คูณ3 อย่างไม่เป็นทางการเมื่อปลายปี 60 ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมากจึงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีได้ตรงจุด และช่วยเพิ่มทางเลือกของการเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจครบถ้วนยิ่งขึ้น สำหรับกลยุทธ์การตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการที่ต้องการซื้อสินทรัพย์ประเภทอาคารพาณิชย์และขยายกิจการเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยมีพื้นที่เป้าหมายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเติบโตสูงทั่วประเทศ"นายภัทรพงศ์ กล่าว

อนึ่ง ปี 60 ธนาคารเกียรตินาคิน มียอดปล่อยสินเชื่อจาก KK SME รถคูณ3 กว่า 3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74% จากปีก่อน และสำหรับปี 61 ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในกลุ่ม SME รวมกันที่ราว 4 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ