นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทจัดงานเสวนาตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ประจำปี 2561 ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 โดยเชิญตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์กว่า 300 รายจากทั่วโลกมาที่กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโอกาสทางการขายและการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยมีผู้บริหารแสนสิริและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมให้ข้อมูลทิศทางและสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยในปี 2561
ทั้งนี้ แสนสิริมีแผนรุกตลาดต่างชาติปี 2561 ต่อยอดความสำเร็จจากการบุกตลาดเอเชียในปี 2560 พร้อมเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ โดยชูจุดเด่นบริการหลังการขายแบบครบวงจรและประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ในแบบแสนสิริ (Complete your living experience) เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุนด้วยข้อมูลเชิงลึก (insight) ทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจไทยที่สดใสและข้อเสนอในการลงทุนที่น่าสนใจ
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา แสนสิริบุกขยายการลงทุนในตลาดจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน อย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากที่สุดในประเทศไทย เป็นจำนวนสูงถึง 9,300 ล้านบาท ในปี 2560 เติบโตขึ้นกว่า 72% จากปี 2559 โดยมีจีนและฮ่องกงเป็นตลาดขับเคลื่อนหลัก ด้วยยอดขาย 3,100 ล้านบาทในแต่ละตลาด ขณะที่สิงคโปร์และไต้หวันเป็นอีกสองตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของเราในตลาดต่างประเทศเป็นผลมาจากการขยายสำนักงานขาย (Sales Gallery) อย่างต่อเนื่อง เรามีทีมงานทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พร้อมให้บริการหลังการขายระดับมืออาชีพแก่ลูกค้าและมีความเข้าใจความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าในแต่ละตลาดอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เรายังมีพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแสนสิริในตลาดระดับนานาชาติ โดยงานเสวนาตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก (Sansiri Global Agent Summit 2018) จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์นี้"นายอภิชาติ กล่าว
นายอภิชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญและน่าสนใจอย่างมากสำหรับชาวต่างชาติทั้งในแง่เพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัย สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยจะโตประมาณ 6-8% โดยโครงการต่าง ๆ ตามแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครจะยังคงเป็นที่ต้องการสูง และคอนโดมิเนียมยังครองส่วนแบ่งสูงสุดในตลาดที่อยู่อาศัยในเขตเมือง ซึ่งในมุมมองของผู้ซื้อและนักลงทุนชาวต่างชาติ ประเทศไทยนับว่ามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในหลายด้านซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์
"เราเห็นศักยภาพของการลงทุนจากลูกค้าชาวต่างชาติ ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศ เรายังเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคอนโดมิเนียมตากอากาศในเมืองท่องเที่ยวซึ่งลูกค้าสามารถซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าในช่วงฤดูท่องเที่ยวได้ สำหรับโครงการของแสนสิริที่ได้รับความสนใจและมียอดขายจากต่างชาติสูงสุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ เดอะไลน์ สุขุมวิท 101 และ เดอะไลน์ สาทร ซึ่งทั้งคู่เป็นโครงการร่วมกันระหว่างแสนสิริกับบีทีเอส จากความสำเร็จของเราในตลาดต่างชาติในปีที่ผ่านมา แสนสิริจึงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศสูงขึ้น 40% เป็น 13,000 ล้านบาท ในปี 2561 พร้อมทั้งขยายจำนวนตัวแทนจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเป็นอีก 50%"นายอภิชาติ กล่าว
นายอภิชาติ กล่าวว่า จากตัวเลขยอดขายต่างชาติที่ตั้งเป้าไว้นี้ แสนสิริประเมินไว้ว่าจะมาจากตลาดจีน 40% ของยอดขายรวมในตลาดต่างชาติ ฮ่องกง 33% สิงคโปร์ 10% และ ไต้หวัน 5% พร้อมรุกขยายสู่ตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยตั้งเป้าขยายจำนวนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก 62% จากฐานลูกค้าในปี 2560 โดยความสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากพันธมิตรในแต่ละตลาดจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับแสนสิริในการเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคอนโดมีเนียมตลาดบนระดับพรีเมียม - ลักชัวรี่ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่มองหาอสังหาริมทรัพย์พร้อมผลตอบแทน 5-8% จากสัญญาเช่าระยะยาวและบริการด้านการบริหารจัดการที่พักอาศัยในแบบพร้อมสรรพของแสนสริ รวมถึงผู้ที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยในวัยเกษียณหรือเพื่อเป็นที่พักตากอากาศ