นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งทางการตลาดปี 61 ให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 7-8% เพื่อเป็นโบรกเกอร์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตั้งเป้าบัญชีใหม่เพิ่มขึ้น 2 หมื่นบัญชี จากปัจจุบันราว 2 แสนบัญชี ซึ่งมีบัญชีซื้อขายสม่ำเสมอราว 50% มูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดรวม 3.5 แสนล้านบาท
ส่วนงานด้านวาณิชธนกิจ บริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในมือ 5-7 ราย มูลค่าระดมทุนตั้งแต่ 400-10,000 ล้านบาท
บริษัทอยู่ระหว่างวางแผนขยายการให้บริการการลงทุนในลักษณะสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ (Margin Loan) กับนักลงทุนรายย่อยให้ได้ครอบคลุมขึ้น โดยบริษัทมีความสามารถในการปล่อยกู้ Margin Loan ได้ถึง 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ประกอบกับมีการเลือกหุ้นที่มีการกำหนดระดับความเสี่ยงทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่สามารถรับความเสี่ยงได้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงทำงานหนักธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุด และรักษาความเป็นหนึ่ง ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องขยายตลาดเป้าหมายเพิ่มขึ้นในนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนที่ซื้อขายรวดเร็วโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยการเคลื่อนที่ทางเทคนิค (EMA) นอกเหนือจากกลุ่มนักลงทุนปัจจัยพื้นฐาน
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีแผนที่จะออกและเสนอขายตราสารใหม่ ๆ เพิ่มเติมด้วย
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทยังคงติดตามการระดมทุนแบบ Initial Coin Offering (ICO) แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นโอกาสชัดเจน มองว่ายังต้องใช้เวลาศึกษาและกลั่นกรองพอสมควร เพื่อเข้าไปโปรโมตหรือเสนอขายหน่วยเอง ขณะที่บริษัทสามารถยังใข้เครื่องมือทางการเงินเดิม ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ หุ้นกู้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนอินฟราฟันด์ โดยยังมีโอกาสมากพอสมควรและบริษัทจะเข้าไปเจาะจงสินค้าดังกล่าวมากขึ้น