นายรามี ปีไรแนน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปี 61 จะเติบโตดีกว่าปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 1.64 แสนล้านบาท ตามการขยายสาขาบิ๊กซีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดจะเติบโต 2-3% โดยมองการจับจ่ายใช้สอย หรือกำลังซื้อของประชาชนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จะเห็นได้จากในช่วงเดือนก.พ.ที่ถือว่าเป็นช่วงของเทศกาลตรุษจีนที่มีกำลังซื้อเข้ามา ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้ว และบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียม คาดว่าจะเติบโต 5-10% จากปีก่อนทำได้ 1.95 หมื่นล้านบาท จากการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของบรรจุภัณฑ์แก้วอีก 400 ตัน/วัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 3,035 ตัน/วัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/61 ขณะที่ธุรกิจอุปโภคและบริโภคปีนี้คาดจะเติบโต 5-10% จากปีก่อนทำได้ 1.7 หมื่นล้านบาท, ธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค คาดเติบโต 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท และธุรกิจค้าปลีก (บิ๊กซี) ที่คาดว่าจะเติบโต 10%
ทั้งนี้บริษัทฯ วางงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการขยายสาขาบิ๊กซี แบ่งเป็น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (ไฮเปอร์มาร์เก็ต) จำนวน 8 สาขา ,มินิ บิ๊กซี จำนวน 200 สาขา จากปีก่อนอยู่ที่ 642 สาขา และจะใช้ในการปรับปรุงสาขาเดิม อีกจำนวน 13 สาขา
"เรายังคงเป้าหมายการขยายสาขามินิ บิ๊กซีให้ได้ 200 สาขาในทุกปี จากปีก่อนเราก็สามารถทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายแล้ว โดยสามารถขยายสาขาดังกล่าวได้ราว 186 สาขา ซึ่งเราจะมุ่งเน้นโลเกชั่นที่เหมาะสม และเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ส่วนยอดขายของสาขาเดิมปีนี้เราตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ 2-3% โดยเรายังคงรักษาการเติบโตเป็นเบอร์ 2 ที่แข็งแกร่ง"นายปีไรแนน กล่าว