นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปีนี้จะเติบโต 5% จากปีก่อนที่ทำได้ 2.93 หมื่นล้านบาท โดยคาด Load Factor ปีนี้จะเติบโตได้ราว 70% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 68% เป็นไปตามยอดจองตั๋ว (Booking) ล่วงหน้า 11 เดือนปีนี้ที่เติบโตแล้วกว่า 13% หรือมีจำนวนบุ๊คกิ้งจำนวน 1.16 ล้านบุ๊คกิ้ง
ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีการแผนขยายเส้นทางการบินใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าไปทำการบิน เพื่อเปิดช่องทางการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ซึ่งในเดือนมี.ค.61 ได้เปิดเส้นทางบินเชียงใหม่-ฮานอย จำนวน 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และในช่วงปลายปีนี้จะเปิดเส้นทางบินใหม่ที่ภูเก็ต-ยางกุ้ง จำนวน 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ รวมถึงจะเพิ่มความถี่เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ฟูก๊วก ในช่วงกลางปีนี้ด้วย เป็นจำนวน 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จากเดิม 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ รวมถึงบริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรทางการบิน (Code share) เข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวน 2-3 สายการบิน
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ราว 4 พันล้านบาท โดยจะใช้ลงทุนซื้อเครื่องบินใหม่เข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 4 ลำ แบ่งเป็น ATR72-600 จำนวน 2 ลำ และ Airbus A319 จำนวน 2 ลำ เพื่อทดแทนเครื่อง ATR72-500 จำนวน 4 ลำ ที่จะปลดระวางในปีนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะเป็นการทยอยลงทุน รวมถึงจะใช้ลงทุนก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบินที่สนามบินสุโขทัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในช่วงกลางปีนี้ และน่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไปและน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี จึงจะแล้วเสร็จ วางงบลงทุน 1,000 ล้านบาท อีกทั้งใช้ลงทุนก่อสร้างโรงครัวที่สนามบินเชียงใหม่ ราว 400 ล้านบาท และจะใช้ในการซื้ออะไหล่เครื่องบิน ราว 500-700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินสดของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน 30% และมาจากการกู้ยืมจากสถาบันทางการเงิน 70% ซึ่งบริษัทฯถือว่ายังมีความสามารถในการกู้ได้อีกมาก จากหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับต่ำ
สำหรับการบริหารความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเครื่องบิน บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายในการซื้อน้ำมันเครื่องบินไว้ล่วงหน้า โดยได้มีการซื้อน้ำมันเครื่องบินล่วงหน้าแล้วจำนวน 3 ไตรมาส แบ่งเป็น ไตรมาส 1/61 มีการ Hedging 65% ,ไตรมาส 2/61 Hedging 64% และไตรมาส 3/61 Hedging 30% เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงจากราคาน้ำมัน