นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (26-30 มี.ค.) ว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวผันผวนจากความกังวลปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นในสหรัฐ
ปัจจัยหลักที่กระทบตลาดยังเป็นปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้า (Trade War) คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวผันผวน จากการที่สหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และทางจีนเริ่มมีการตอบโต้บ้างโดยการพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐรวมมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ประเด็นดังกล่าวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อตลาดในสัปดาห์นี้
ขณะที่ตัวแปรอื่นๆ ที่มีผลต่อทิศทางตลาดประกอบด้วย รายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 4/60 ของสหรัฐฯในวันที่ 28 มี.ค. โดยคาดว่าจะเติบโต 2.6% QoQ ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่เติบโต 3.2% QoQ
ขณะเดียวกันในวันที่ 29 มี.ค.จะมีการรายงาน US Personal Income คาดว่าจะออกมาที่ 0.3% ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่ 0.4% และตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล คาดว่าจะออกมาที่ 0.4% เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ 0.2% และช่วงกลางสัปดาห์ติดตามการประกาศรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีน ที่จะถูกขึ้นภาษีนำเข้าโดยสหรัฐฯ
ด้านตลาดยุโรป ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจจากทางยุโรป โดยจะรายงานออกมาในวันที่ 27 มี.ค.คาดว่าจะออกมาฟื้นตัว 1.77 จากช่วงก่อนหน้าที่ 1.48 และในวันที่ 29 มี.ค.จะมีการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานจากทางเยอรมัน คาดว่าจะออกมาที่ 5.3% ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่ 5.4%
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ KTBTS มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้อยู่ที่ 1,760-1,820 จุด เนื่องด้วยมุมมองตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น จึงแนะนำให้นักลงทุนกลับมาเพิ่มการถือครองเงินสด โดยการเข้าซื้อต้องพิจารณาเป็นรายตัว (selective buy) โดยหุ้นที่แนะนำสำหรับการเก็งกำไรช่วงสัปดาห์จะเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการอิงปัจจัยในประเทศ (Domestic play) และกลุ่มที่มีลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นไม่อิงกับดัชนี ประกอบด้วย KTC และ CPALL , หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก คือ KCE และหุ้นที่ให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลที่ดีจากสภาวะอุตสาหกรรมเอื้อหนุน (ค่าการกลั่นน้ำมันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง) คือ SPRC