บริษัท JIBEX Co.,Ltd. ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานด้านฟินเทค เปิดตัวเตรียมลุยตลาดคริปโตฯ (Cryptocurrency) หรือการเทรดเงินดิจิทัล โดยจะเริ่มเปิดให้บริการ cryptocurrency wallet ให้แก่ผู้ใช้งานในเดือน เม.ย.นี้ โดยใช้งานได้ผ่านแอพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว โดยจะเก็บรักษาสกุลเงินดิจิทัลอย่างปลอดภัย โดยในช่วงแรกสามารถใช้ได้กับเงินดิจิทัล 5 สกุล ได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Ripple, Bitcoin Cash, และ Litecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเป็นที่นิยมเทรดกันอยู่ขณะนี้ และเร็วๆ นี้ JIBEX wallet จะสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลตัวท็อปอื่นๆ เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายขึ้นของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ
นอกจากนี้ JIBEX wallet ยังมีระบบการยืนยันตัวตน (KYC) มาตรฐานระดับสูงเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจถึงระบบความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งเป็นเกตเวย์หนึ่งที่ให้ความรู้เบื้องต้น บทความ อัพเดทข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจต่างๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและความรู้ด้านการเงินการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนการทำธุรกรรม
การดำเนินงานในระยะที่ 2 JIBEX จะเปิดให้ผู้ใช้งานทำการเทรดสกุลเงินดิจิทัลระหว่างสกุลเงินดิจิทัลด้วยกัน หรือสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินบาท (Exchange) เพื่อการลงทุน และการดำเนินงานในระยะที่ 3 จะเพิ่มฟังก์ชั่นในการช่วยเทรดต่างๆ เช่น Robot Trade เครื่องมือการเทรดอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนได้
อีกทั้ง JIBEX จะถูกพัฒนาระบบเพื่อรองรับการซื้อของออนไลน์ (e-commerce) โดยชำระผ่านสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจะเริ่มนำร่องด้วยการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลซื้อของกับช็อปออนไลน์ของ JIB ส่วนการดำเนินงานในระยะที่ 4 JIBEX จะเปิดให้บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ (Wealth Management) เพื่ออำนวยการบริหารพอร์ทการเงินด้วยรวมทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ปกติทั่วไป
ทั้งนี้ นักลงทุนและผู้สนใจเข้าไปติดตามข่าวสารที่ www.jib-ex.com โดยผู้ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เม.ย.จะได้รับโปรโมชั่นฟรีค่าเทรดเป็นเวลา 45 วันนับจากวันที่เปิดให้บริการเทรดครั้งแรก ซึ่งวางแผนว่าจะเริ่มเปิดให้บริการฟังก์ชั่นเทรดเงินดิจิทัล (JIBEX Exchange) นี้ในช่วงเดือน มิ.ย. โดยผู้สนใจหรือนักลงทุนเตรียมดาวน์โหลดแอพฯ JIBEX ได้ผ่าน App Store และ Play Store ในเดือน เม.ย.นี้
นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท J.I.B. Computer Group (JIB) ในฐานะหนึ่งในผู้ลงทุนใน JIBEX กล่าวว่า การลงทุนเพื่อทำธุรกิจดังกล่าวฯ ครั้งนี้ เพราะเห็นถึงความน่าสนใจ และโอกาสด้านการลงทุนของ Cryptocurrency ซึ่งเป็นเรื่องที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในระดับโลก แม้กระทั้งในประเทศไทย
อีกทั้งยังเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของเทคโนโลยีด้านการเงินต่างๆ ที่ถูกพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการให้ความสนใจในสิ่งเหล่านี้จากสังคมดิจิทัลในประเทศไทย ประกอบกับความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านไอทีที่มีมากว่า 17 ปี ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคไทย จึงเชื่อมั่นว่าสามารถนำประสบการณ์เหล่านี้มาช่วยริเริ่ม และส่งเสริมให้ JIBEX เป็นเกตเวย์การลงทุนดิจิทัลที่ให้บริการได้อย่างครบครัน
"JIBEX เรามุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยสูงเป็นอันดับต้นๆ ควบคู่ไปกับเรื่องการอัพเดทข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ตลอดจนบทวิเคราะห์ต่างๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยแก่นักลงทุนในการวางแผนและบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรอบคอบ เป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และลดโอกาสในการขาดทุน " นายสมยศ กล่าว
ด้านนายธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท JIBEX Co.,Ltd. กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการบริหารและเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศมากว่า 10 ปี ร่วมกับทีมงานนักวางแผนการเงินมืออาชีพ (CFP) และ ผู้จัดการกองทุน (CFA) ที่มีประสบการณ์ด้านบริหารกองทุนมาอย่างยาวนานมีความตั้งใจพัฒนา JIBEX ให้เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่มีความปลอดภัย ความมั่นคงและตอบสนองนักลงทุนได้ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานจัดเก็บ จัดการ ลงทุน และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ใช้งานง่าย พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และข่าวสารสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการลงทุนเงินดิจิทัล
ด้วยระบบความปลอดภัยของแอพฯ ที่เทียบเท่ากับธนาคารและสถาบันการเงิน และความร่วมมือกับบริษัท J.I.B. Computer Group (JIB) จะทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ถึงระบบความปลอดภัยและความมั่นคงของแอพฯ และการให้บริการของ JIBEX (จิ๊บเอ็กซ์) ที่ดี รวดเร็ว และใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้า
ทีมงานผู้มีประสบการณ์ด้านการเงินและเทคโนโลยี ความปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) ต้องการพัฒนา JIBEX เป็นเกตเวย์สู่การลงทุนดิจิทัลที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ พร้อมทั้งออกแบบให้ใช้งานง่าย ให้บริการแบบครบวงจรเรื่องการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ตลอดจนให้ความรู้ด้านการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลแก่คนไทย และอำนวยความสะดวก ให้ข้อมูล คำแนะนำ และการบริการอื่นๆ แก่ผู้ใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ รวมไปถึง JIB Shop 150 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในปีแรกบริษัทตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานไว้ที่ 170 ล้านบาท เป็นไปตามรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมในการเทรดของผู้ใช้บริการ และตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการกระดานเทรดในเฟสแรกจำนวน 1 หมื่นคน รวมถึงคาดหวังจะมีมูลค่าในการเทรดเฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อบัญชี อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นคาดว่าในช่วงปลายปีจนถึงต้นปีหน้าจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้นแตะ 1 แสนคน
"JIBEX เป็นแอพฯ ที่เหมาะสำหรับกลุ่มนักลงทุนทั้งที่มีประสบการณ์ และไม่มีประสบการณ์ ซึ่งมีความสนใจในสกุลเงินดิจิทัล โดยคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการจะมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางบริษัทได้ตั้งเป้ารายได้จากการดำเนินงานในปีแรก 170ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่มาจากค่าธรรมเนียมในการเทรดของผู้ใช้บริการ"นายธรรม์ธีร์ กล่าว
นายธรรม์ธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีบริษัทสนใจที่จะออก ICO แล้วจำนวน 4-5 รายผ่านกระดานเทรดของ JIBEX ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาความเป็นไปได้ แต่ในส่วนของบริษัทเองขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะออก ICO เนื่องจากรอความชัดเจนของภาครัฐในเรื่องของกฏเกณฑ์ต่างๆที่จะมารองรับ
โดยบริษัทมองว่าภาครัฐน่าจะออกกฎเกณฑ์ที่ให้การสนับสนุนหรือป้องกันความเสียหาย และดึงดูดนักลงทุนทั้งในประเทศที่ขณะนี้มีการออก ICO ในต่างประเทศจำนวนมากให้กลับมาออก ICO ในประเทศไทย และดึงดูดต่างชาติให้มาออก ICO ในไทยเพื่อให้เกิดเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น ส่วนการที่ภาครัฐมีแนวทางที่จะเรียกเก็บภาษีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น เชื่อว่าภาครัฐจะออกกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ
"เรามีจุดเด่นอยู่ 2 ด้าน คือ ด้านเทคโนโลยี และด้านฟินเทคทางการเงิน ซึ่งเราถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว โดยเรามีความพร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในด้านของการบริการ ทั้งช่องทางออนไลน์ และสาขา รวมถึงเรายังมุ่งเน้นในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากเรามีการทำตามมาตรฐานของสถาบันทางการเงินทุกประการ"