หุ้น CBG ราคาวิ่งขึ้น 3.57% มาอยู่ที่ 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 232.96 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.19 น. โดยเปิดตลาดที่ 63.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 66 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 63.75 บาท
บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) เพื่อสะท้อนศักยภาพทำกำไรที่ดีในระยะยาว อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 28.2% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 ที่ 80.75 บาท (วิธี DCF) และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ที่ 2.2%
ทั้งนี้ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ CBG ด้วยแรงหนุนจาก 1. แนวโน้มสดใสของยอดขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศจีนและอังกฤษ 2. การเพิ่มจุดกระจายสินค้า โดยปัจจุบันมีศูนย์กระจายสินค้าเป็น 31 ศูนย์ (334 Cash Van) ครอบคลุมพื้นที่ร้านค้าย่อย 220,000 ร้าน และ 3. การเติบโตของโมเดลธุรกิจใหม่ จากการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวันผ่านช่องทาง Cash Van โดยมีทั้งสินค้าของบริษัทและผู้ผลิตรายอื่น ดังนั้นจึงคงประมาณการเดิม โดยคาดปีนี้ CBG จะมีกำไรสุทธิ 2,009 ล้านบาท เติบโต 61.3% จากปีที่แล้ว
จากงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุนเมื่อวานนี้ สรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1) ผู้บริหารยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาวของบริษัท โดยยืนยันว่าการรุกตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปยังประเทศอังกฤษเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและดีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านการตลาดด้วย Football Marketing ทั้งการเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรฟุลบอลเชลซี และ Carabao Cup (EFL) ซึ่งกลยุทธ์นี้นอกจากจะช่วยให้ CBG นำสินค้าไปวางจำหน่ายมากกว่า 30 Chain Store ใหญ่ๆในอังกฤษได้แล้ว ยังช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายในประเทศอื่นๆ เช่น อาเซอร์ไบจาน, กานา, ฝรั่งเศส, เปรู ฯลฯ เริ่มเข้ามาติดต่อสั่งซื้อสินค้า ตอกย้ำโอกาสทางธุรกิจที่จะผลักดันเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวเป็นสินค้าระดับโลก
2) อัพเดทแผนรุกตลาดจีน (CBG เป็นเพียงผู้ขายสินค้าเท่านั้น โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้ลงทุนเอง) ปัจจุบันผู้ลงทุนอยู่ระหว่างการเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการขายจากเดิมใช้ Above The Line จะปรับเป็น Below The Line โดยเน้นทั้งการตลาดและโฆษณาตรง Point of Sales ให้มากขึ้น ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะยังคงเน้นกลยุทธ์ "ทำใหญ่ ไม่ทำเล็ก" โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่จะวางจำหน่ายสินค้ากระจายไปทั่วประเทศจีน อีกทั้งช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา CBG เริ่มทยอยส่งสินค้าไปยังประเทศจีนแล้ว หลังจากที่ช่วงไตรมาส 4/60 CBG ไม่ได้ส่งสินค้าไปยังประเทศจีนเลย
3) อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น จากแผนผลิตเองในบางสินค้า Own Brand เพื่อลดต้นทุน OEM และปัจจัยบวกจากต้นทุนราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวลงราว 16.4% นับจากต้นปี และ 4) CBG มีแผนลดต้นทุนทางการเงินด้วยการ Refinance โดยออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท ที่เรทติ้ง A- หวังลดดอกเบี้ยราว 50-100 Basis Point หรือคิดเป็นมูลค่า 15-30 ล้านบาท